ที่สุดของอินโดนีเซีย – 19 วัน – แผนการเดินทางในอินโดนีเซีย
ผูกเชือกรองเท้าให้ดีแล้วเตรียมตัวพบกับทริปที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมมันๆ เริ่มต้นที่จาการ์ตาเพื่อสัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมดัตช์ที่หลงเหลืออยู่ในอินโดนีเซีย จากนั้นไปต่อที่โบกอร์ บันดุง ยอกยาการ์ตา และสุราบายา คุณจะได้เห็นทะเลสาบที่เกิดจากภูเขาไฟ ใกล้ชิดวัฒนธรรมอันหลากหลายที่ผสมผสานกัน และสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตในพระราชวังอันยิ่งใหญ่ จากนั้นก็ถึงช่วงไฮไลต์ของทริปนี้ นั่นคือการเดินขึ้นภูเขาไฟโบรโม-คาวาอีเจียนเพื่อไปตื่นตาตื่นใจกับวิวสุดอลังการที่รับรองว่าคุณจะลืมไม่ลง
บินจากกรุงเทพฯ (BKK) ไปจาการ์ตา (CGK)
[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-จาการ์ตา’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’CGK’ dest_region=’178269′ ]
1) จาการ์ตา (Jakarta) – 2 วัน
ด้วยประชากรเกือบ 10 ล้านคน เมืองหลวงของอินโดนีเซียแห่งนี้จึงเป็นที่ผสมผสานของวัฒนธรรมอันหลากหลายที่มีตั้งแต่ชวา อาหรับ หรือแม้กระทั่งยุโรป คุณจะสัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมเหล่านี้ได้จากอาหารและสถาปัตยกรรมของเมือง
ไปโกตาตูอา (Kota Tua) เขตเมืองเก่าของจาการ์ตา เพื่อชมตึกสไตล์โคโลเนียลที่ได้รับอิทธิพลจากชาวดัตช์ ลองไปเดินเล่นที่จัตุรัสกลางเมืองปัตตาเวีย (Batavia City Square) เพื่อสัมผัสบรรยากาศเมืองจาการ์ตาสมัยก่อน ทุกวันนี้ตึกเก่าแก่ถูกแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านกาแฟสไตล์ฮิปสเตอร์ และไปที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอก (Wayang Museum) เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์อินโดนีเซียให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
โกลด็อก (Glodok) ซึ่งเป็นย่านไชน่าทาวน์ของจาการ์ตา เต็มไปด้วยแผงขายของหลากหลายมากมายตั้งแต่อาหารข้างทาง ของกินเล่นพื้นเมือง ไปจนถึงของที่ระลึกต่างๆ ถ้ามาถึงนี่แล้ว ต้องไปกินอาหารเช้าและกาแฟที่ร้าน Kopi Es Tak Kie เจ้าเด็ด
จัตุรัสเมอร์เดกา (Merdeka Square) ที่อยู่ใจกลางจาการ์ตามีสวนสาธารณะร่มรื่นเรียงรายสองข้างทาง แถบนี้เต็มไปด้วยอาคารหน่วยงานราชการที่สำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอินโดนีเซีย ศาลฎีกา และพระราชวังเมอร์เดกา ส่วนอนุสาวรีย์แห่งชาติ หรือ Monas ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
โรงแรมในจาการ์ตา
เที่ยวบินไปจาการ์ตา
นั่งรถไฟจากจาการ์ตาไปโบกอร์
2) โบกอร์ (Bogor) – 2 วัน
นั่งรถไฟหนึ่งชั่วโมงมาลงที่โบกอร์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองบนเชิงเขา แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ตั้งแต่การตั้งแคมป์แบบเก๋ๆ ไปจนถึงการนั่งเรือกอนโดล่า หนึ่งในสถานที่ที่พลาดไม่ได้สำหรับเมืองนี้คือสวนพฤกษศาสตร์ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวโบกอร์ พระราชวังอันโอ่อ่าอย่าง Istana Bogor ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็น่าไป
สมัยก่อนที่นี่เคยเป็นบ้านพักฤดูร้อนของผู้ว่าชวา แต่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักเพราะมีกวาง 250 ตัวเที่ยวเดินกินหญ้ารอบพระราชวัง และถ้าอยากช้อปปิ้ง ต้องไปที่ Raja Factory Outlet รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็กที่มีให้เลือกมากมาย
โรงแรมในโบกอร์
ขับรถจากโบกอร์ไปบันดุง
3) บันดุง (Bandung) – 3 วัน
ขับรถลงไปที่บันดุง เมืองหลวงของชวาตะวันตกที่ได้สมญานามว่า “ปารีสแห่งชวา” บันดุงไม่ได้มีดีเพียงแค่ธรรมชาติอันงดงามอย่างภูเขาไฟและไร่ชาเท่านั้น แต่ยังมีร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น คาเฟ่เก๋ๆ และโรงแรมสุดหรูอีกด้วย
เมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสามของอินโดนีเซีย มีประชากร 2.4 ล้านคน และมีสิ่งน่าสนใจจำนวนมาก
นักชิมที่ชอบลองอาหารใหม่ๆ จะต้องสนใจตลาดน้ำในเล็มบัง (Lembang) ที่นี่คุณจะได้พบแผงขายอาหารซูดานกว่า 30 ร้านที่ทำอาหารกันสดๆ หน้าเตาบนเรือ แถมยังขายกันในราคาถูกเหลือเชื่อ ที่นี่ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจหลายอย่างเช่น การพายเรือแคนู เรือพาย และ “รถไฟน้ำ”
เดินขึ้นกาวะห์ ปูติห์ (Kawah Putih) ทะเลสาบภูเขาไฟเก่าแก่ที่อยู่ห่างจากบันดุงไป 76 กม. ชาวอินโดเองก็นิยมมาที่นี่เช่นกันเพราะหลงใหลในความงดงามของธรรมชาติ ที่นี่เป็นหนึ่งในสองปล่องภูเขาไฟที่รวมกันเป็นเขาปาตูฮา (Mount Patuha) ที่น่าสนใจก็คือทะเลสาบนี้เปลี่ยนสีไปตามระดับซัลเฟอร์ โดยเปลี่ยนจากสีขาวเป็นฟ้า เขียวน้ำนม และน้ำตาล
ทางเหนือของบันดุงมีภูเขาไฟอีกแห่งนั่นคือ ตังกูบัน เปอราฮู (Tangkuban Perahu) ซึ่งประกอบด้วยปากปล่องสามปล่อง ได้แก่ Kawah Ratu, Kawah Upas และ Kawah Domas ซึ่งที่ Kawah Domas คุณสามารถแช่เท้าในบ่อน้ำซัลเฟอร์และต้มไข่ในบ่อน้ำร้อนได้ด้วย
โรงแรมในบันดุง
เที่ยวบินไปบันดุง
นั่งเครื่องบินจากบันดุง (BDO) ไปยอกยาการ์ตา (JOG)
4) ยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) – 3 วัน
นั่งเครื่องบินหนึ่งชั่วโมงจากบันดุงมาลงที่ยอกยาการ์ตา ที่ซึ่งหลายๆ คนยกให้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซียและเป็นต้นแบบวัฒนธรรมสุดวิจิตร เมืองนี้เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ และร้านขายของหัตถกรรม ที่ยิ่งเน้นย้ำให้เห็นภาพลักษณ์ของเมืองในฐานะเมืองหลวงแห่งศิลปะของอินโดนีเซีย คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อผลงานผ้าบาติก ภาพวาด และเครื่องเงิน รวมไปถึงงานหัตถกรรมอื่นๆ
ตื่นแต่เช้าเพื่อรอดูพระอาทิตย์ขึ้นสุดยิ่งใหญ่อลังการที่มหาสถูปบุโรพุทโธ (Borobudur) ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกกับ UNESCO จากนั้นจึงไปท่องเที่ยวชมวัฒนธรรมน่าประทับใจที่พบเห็นได้ทั่วเมือง
อย่าพลาดการแสดงรามายณะอันโด่งดังที่ปรัมบานัน (Prambanan) ซึ่งจัดขึ้นทุกค่ำคืนมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ราคาบัตรจะรวมทั้งการแสดงและอาหารมื้อค่ำ
โรงแรมในยอกยาการ์ตา
เที่ยวบินไปยอกยาการ์ตา
นั่งเครื่องบินจากยอกยาการ์ตา (JOG) ไปสุราบายา (SUB)
5) สุราบายา (Surabaya) – 1 วัน
บินอีก 2.5 ชั่วโมงมาลงที่สุราบายา เมืองใหญ่อันดับสองของอินโดนีเซีย ย่านเมืองเก่าของที่นี่มีของดีให้ชมเพียบ ทั้งวัดจีน ย่านอาหรับที่คึกคัก มัสยิดโบราณ และพิพิธภัณฑ์ยาสูบ รับรองว่ามีอะไรให้เพลิดเพลินตลอดทั้งวันแน่นอน
โรงแรมในสุราบายา
เที่ยวบินไปสุราบายา
นั่งรถไฟจากสถานีสุราบายา กูเบง ไปบังงิล
6) ภูเขาไฟโบรโม (Mount Bromo) – 2 วัน
นั่งรถไฟจากสถานีสุราบายา กูเบง (Surabaya Gubeng) มาลงที่บังงิล (Bangil) แล้วต่อแท็กซี่บังงิลมาที่ภูเขาไฟโบรโม ถ้าคุณตั้งใจจะเดินขึ้นเขาโบรโม ให้พักที่โปรโบลิงโก (Probolinggo) ซึ่งอยู่บริเวณฐานภูเขา ที่นี่มีจุดชมวิวสามจุดให้ชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือโบรโม ทัวร์ส่วนใหญ่จะไปกันที่จุดชมวิวสูงสุดที่ความสูง 2,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ถ้าคุณไม่อยากเบียดกับคนเยอะๆ ให้ไปที่ King Kong Hill ที่มีวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยไม่แพ้กัน
การเดินไปที่ปากปล่องโบรโมใช้เวลา 30 นาที คุณจะต้องเดินผ่านทุ่งลาวาแล้วขึ้นบันไดไปสูง แต่รับรองว่าคุ้มกับแรงที่เสียไป เพราะคุณจะได้เห็นขอบปล่องภูเขาไฟแบบใกล้ชิดชัดๆ และถ่ายภาพทิวทัศน์สุดตระการตาของภูเขาไฟ
โรงแรมใกล้ภูเขาไฟโบรโม
เที่ยวบินไปโวโนกิตรี
/ นั่งรถแท็กซี่หรือเช่ารถขับจากภูเขาไฟโบรโมไปภูเขาคาวาอีเจียน
7) ภูเขาคาวาอีเจียน (Kawah Ijen) – 2 วัน
ถ้าการเดินขึ้นเขาตอนตีสามเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคุณ ต้องห้ามพลาดภูเขาคาวาอีเจียน ไฮไลต์ของที่นี่คือ “เปลวไฟเต้นระบำสีน้ำเงิน” รับรองว่าสวยคุ้มค่ากับการนั่งรถ 5 ชั่วโมงอย่างแน่นอน
ไฟสีน้ำเงินสดนี้เกิดจากการเผาไหม้ของก๊าซซัลฟิวริก คุณต้องสวมหน้ากากขณะเดินเขาคาวาอีเจียน เพราะม่านหมอกก๊าซซัลฟิวริกนั้นแรงมาก การเดินขึ้นไปที่ยอดจากบันยูวังงี (Banyuwangi) ซึ่งอยู่ที่ตีนเขาใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
โรงแรมใกล้ภูเขาคาวาอีเจียน
เที่ยวบินไปบันยูวังงี
นั่งเรือเฟอร์รีจากภูเขาคาวาอีเจียนไปบาหลี
8) บาหลี (Bali) – 4 วัน
นั่งเรือข้ามฟากกลับไปที่เกาะบาหลีซึ่งใช้เพียงเวลา 30 นาที จากนั้นต่อรถไปที่อุบุดอีก 130 กม. ที่นี่เป็นศูนย์รวมงานศิลปะและวัฒนธรรมของบาหลี มีอะไรให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งชิลในคาเฟ่และดูโลกหมุนไป เดินช้อปและต่อราคากับคนขายงานศิลปะหัตถกรรม พบปะกับครอบครัวชาวบาหลีที่จะพาคุณไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน ที่ซึ่งคุณจะได้ลองเรียนทำอาหารในบ้านของพวกเขา
การบอกลาบาหลีเป็นเรื่องยาก เราเข้าใจที่คุณต้องลากเท้าขึ้นเครื่องที่สนามบินนานาชาติงูระฮ์ ไร (Ngurah Rai International Airport) และบินเป็นเวลา 4 ชั่วโมงกลับบ้านจากดินแดนสวรรค์แห่งวัฒนธรรมนี้
โรงแรมในบาหลี
เที่ยวบินไปบาหลี
บินจากท่าอากาศยานบาหลี (DPS) กลับกรุงเทพฯ (BKK)
บ้าบาหลี – 11 วัน – แผนการเดินทางในอินโดนีเซีย
ตกหลุมรักบาหลีจนจะเป็นบ้าแล้วใช่ไหมล่ะ เราก็เหมือนกัน เราทำแผนการเดินทางบ้าบาหลี (Bali Gila) มาสำหรับคนรักทะเลอินโดโดยเฉพาะ ข้ามเกาะจากบาหลีไปที่นูซาปนีดา จากลอมบอกไปกิลี แต่ละเกาะก็มีสิ่งน่าสนใจให้สำรวจไม่ซ้ำกัน เตรียมกล้องไว้ให้พร้อมล่ะ
บินจากกรุงเทพฯ (BKK) ไปท่าอากาศยานบาหลี (DPS)
[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-บาหลี’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’DPS’ dest_region=’602651′ ]
1) บาหลี (Bali) – 4 วัน
โชคดีที่บาหลีอยู่ห่างออกไปแค่ 4 ชั่วโมง พอลงจากเครื่องปุ๊บก็มีอะไรให้ทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเข้าชั้นเรียนโยคะ นั่งชิลในคาเฟ่ที่มีให้เลือกเต็มไปหมด นอนอ่านหนังสือท่ามกลางลมอุ่นๆ เช่ามอเตอร์ไซค์แล้วขี่ไปสำรวจน้ำตก หรือรอชมพระอาทิตย์ตกดินบนชายหาด พอตกกลางคืน ที่กูตา (Kuta) และเซมินยัก (Seminyak) ก็มีบาร์และคลับคึกคักให้เลือกเต็มไปหมด จนเวลา 24 ชั่วโมงก็ไม่พอ
นอกจากนี้ มาบาหลีแล้วจะไม่โต้คลื่นได้ยังไง สำหรับมือใหม่ ให้มาที่โอลด์แมนส์บีช (Old Man’s Beach) ในจังกู (Canggu) ส่วนคนที่มีพื้นฐานแล้วและนักโต้คลื่นมือฉมังมักจะไปที่อูลูวาตู (Uluwatu) และปาดังปาดัง (Padang-Padang) เพื่อท้าทายคลื่นลูกโต
โรงแรมในบาหลี
เที่ยวบินไปบาหลี
นั่งเรือเฟอร์รีจากบาหลีไปนูซาปนีดา
2) นูซาปนีดา (Nusa Penida) – หนึ่งวันครึ่ง
แบ่งเวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในทริปบาหลีเพื่อมาที่นูซาปนีดา แค่นั่งเรือข้ามฟากมาคุณก็จะได้พบกับของดีมากมายที่ซุกซ่อนอยู่บนเกาะนี้ ไม่ว่าจะเป็นผาหินธรรมชาติ ทะเลสาบน้ำเค็มที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริง และน้ำตกที่หลายแห่งที่ซุกซ่อนไว้รอให้คุณไปค้นหา พูดง่ายๆ ก็คือ เกาะนี้เกิดมาเพื่ออินสตาแกรมจริงๆ ถ้ามีเวลา คุณอาจอยู่ที่นี่สัก 2 วันเพื่อสำรวจเกาะนูซาเลมบงงัน (Nusa Lembongan) และเกาะนูซาเซนิงกัน (Nusa Ceningan)
โรงแรมในนูซาปนีดา
เที่ยวบินไปนูซาปนีดา
นั่งเรือเฟอร์รีจากนูซาปนีดาไปบาหลี
3) บาหลี (Bali) – ครึ่งวัน
นั่งเรือเฟอร์รีจากบาหลีไปลอมบอก
4) ลอมบอก (Lombok) – 1 วัน
นั่งเรือข้ามเกาะกันอีกรอบเพื่อมาที่ลอมบอก เกาะนี้มักถูกใช้เป็นทางผ่านไปสู่เกาะกิลีอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมมากกว่า แต่ที่นี่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจที่ยังไม่ค่อยมีใครไปสำรวจด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีหาดสวยๆ หลายแห่งด้วย สถานที่ที่โด่งดังที่สุดของลอมบอกก็คือ กูนุง รินจานี (Gunang Rinjani) ซึ่งเป็นภูเขาสูง 3,762 เมตรและเป็นภูเขาไฟที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศ นักปีนเขาตัวจริงอาจใช้เวลา 3 วันเพื่อเดินขึ้นเขามาบนนี้ ที่ตีนเขามีน้ำตกอย่าง Sendange Gile และ Tiu Kelep ให้คุณได้ไปสำรวจ หรือจะไปดูมัสยิดโบราณและหมู่บ้านแบบดั้งเดิมของชาวฮินดูและอิสลามก็ได้
โรงแรมในลอมบอก
เที่ยวบินไปลอมบอก
นั่งเรือเฟอร์รีจากลอมบอกไปหมู่เกาะกิลี
5) หมู่เกาะกิลี (Gili Islands) – 3 วัน
ลอมบอกกับหมู่เกาะกิลีอยู่ห่างกันแค่ 35 นาทีด้วยการนั่งเรือ เป็นที่รู้กันว่าที่นี่ไม่มีรถยนต์ คนส่วนใหญ่ในกิลีเดินทางด้วยรถม้าลาก หรือที่เรียกว่า ซิโดโม (cidomo) เกาะที่มีแนวปะการังล้อมรอบทั้งสามนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอมบอก พระอาทิตย์จะตกเหนือภูเขาอากัง (Mount Agung) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดของบาหลี
ถ้าคุณมาเที่ยวกับเพื่อนๆ แนะนำให้พักที่ย่าน Gili Trawangan เพื่อท่องราตรี สำหรับคนที่สนใจเรื่องวัฒนธรรม ต้องมาที่ Gili Meno ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวซาซะก์ (Sasak) กลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในลอมบอก สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่ก็คือผืนน้ำใสแจ๋วที่ล้อมรอบเกาะเหล่านี้ และใต้ผืนน้ำยังเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ ดังนั้น กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่จึงหนีไม่พ้นการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกนั่นเอง
โรงแรมในหมู่เกาะกิลี
เที่ยวบินไปหมู่เกาะกิลี
/ นั่งเรือเฟอร์รีกลับไปที่ลอมบอก (LOP) เพื่อบินกลับกรุงเทพฯ (BKK)
นักผจญภัยท้าโคโมโด – 9 วัน – แผนการเดินทางในอินโดนีเซีย
ทริปนี้ลองแหวกแนวจากการเดินทางทั่วไปแล้วมาตามหาสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของอินโดนีเซีย พบกับนักว่ายน้ำที่เก่งที่สุดของอินโดนีเซีย ซึ่งก็คือเหล่ามังกรโคโมโดที่ใกล้สูญพันธุ์นั่นเอง! การเดินทางไปแดนมังกรอาจใช้เวลาสักหน่อย แต่ระหว่างทาง คุณจะผ่านเกาะฟลอเรส (Flores) ที่เหมาะสำหรับการดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่น่าสนใจให้คุณสำรวจมากมาย
บินจากกรุงเทพฯ (BKK) ไปท่าอากาศยานบาหลี (DPS)
[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-บาหลี’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’DPS’ dest_region=’602651′ ]
1) บาหลี (Bali) – 4 วัน
หลังจากนั่งเครื่องไม่นานเพื่อมาลงที่สนามบินนานาชาติงูระฮ์ ไร (Ngurah Rai) คุณก็ถึงบาหลีแล้ว แต่ อย่า วอก แวก คราวนี้เราไม่ได้มาเที่ยวทะเล แต่เราจะมาตามล่าหามังกรโคโมโดกัน ตรงไปที่เทอร์มินัลภายในประเทศเพื่อต่อเครื่องไปที่ลาบูอันบาโจ (Labuan Bajo) ซึ่งใช้เวลาบินแค่ครึ่งชั่วโมง
โรงแรมในบาหลี
เที่ยวบินไปบาหลี
บินจากท่าอากาศยานบาหลี (DPS) ไปสนามบินลาบูอันบาโจ (LBJ)
2) ลาบูอันบาโจ (Labuan Bajo) – ครึ่งวัน
เกาะรินกา (Rinca) ซึ่งเป็นที่อยู่ของเจ้ามังกรโคโมโดเป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับคนที่อยากหาเวลาสงบๆ และเพลิดเพลินกับการดำน้ำสบายๆ รอบเกาะฟลอเรส หรือจะใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์บนท่าเรืออันเงียบสงบก็ได้ เมืองเล็กๆ ที่กำลังพัฒนาแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่เพียง 3,000 คน พวกเขาใช้ใช้ชีวิตและทำมาหากินกันในน้ำ ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากทีเดียว
โรงแรมในลาบูอันบาโจ
เที่ยวบินไปลาบูอันบาโจ
นั่งเรือจากลาบูอันบาโจไปอุทยานแห่งชาติโคโมโด
3) อุทยานแห่งชาติโคโมโด (Komodo National Park) – 3 วัน
ตื่นแต่เช้าแล้วออกไปตามล่าหาแสงแรกของวันกันเถอะ เดินขึ้นภูเขาเล็กๆ บนเกาะกิลีลาวา (Gili Lawa) ก่อนฟ้าสางเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น
ไปดำน้ำตื้นที่จุดดำน้ำ Manta Point ที่อยู่กลางทะเล ที่นี่คุณอาจได้เห็นปลากระเบนราหูที่หาดูได้ยาก ถ้าโชคดี คุณอาจได้เห็นชัดๆ ตอนดำน้ำอยู่ก็ได้ แต่ต้องตาไวหน่อยนะ เพราะสัตว์พวกนี้ค่อนข้างขี้อาย
จากนั้นนั่งเรือไปที่หาดบาตูโบลอง (Batu Bolong) ที่ซึ่งคุณจะได้แหวกว่ายไปพร้อมกับฝูงปลาที่สีสดราวกับดวงอาทิตย์และตื่นตาตื่นใจไปกับแนวปะการังหลากสี ระหว่างทางไปหาดทรายสีชมพู แวะที่เกาะทากา มากัสซาร์ (Taka Makassar) ซึ่งเป็นเกาะที่ล้อมรอบด้วยแนวปะการังวงแหวนกลางทะเล นั่งปิกนิกบนหาดทรายขาวขณะอาบแดดอย่างเป็นส่วนตัว แต่ถ้าไม่ชอบอาบแดด ก็ลองไปเดินเล่นบนหาดทรายสีชมพูให้นิ้วเท้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูไปเลย
ก่อนพระอาทิตย์ตก มุ่งหน้าไปที่อุทยานแห่งชาติโคโมโดซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของมังกรโคโมโด ที่นี่เป็นอุทยานแห่งเดียวในโลกที่สัตว์พวกนี้ได้อาศัยกันเองในป่า ภายในอุทยานคุณอาจเห็นหมูป่า กวาง และควายที่อาศัยอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นเหยื่อของเหล่ามังกรกินเนื้อ
หลังจากชมที่อยู่มังกรโคโมโแล้ว แวะไปที่หมู่บ้านโคโมโดกันต่อ ชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตกับสัตว์อันตรายชนิดนี้อย่างใกล้ชิด ชมบ้านมีใต้ถุนของพวกเขาและดูวิถีการทำมาหากินด้วยเครื่องมือง่ายๆ
โรงแรมในอุทยานแห่งชาติโคโมโด
เที่ยวบินไปลาบูอันบาโจ
/ นั่งเรือกลับไปลาบูอันบาโจและนั่งรถบัสไปรูเตง
4) รูเตง (Ruteng) – 1 วัน
เริ่มการเดินทางผ่านฟลอเรสด้วยการนั่งรถประจำทางในท้องถิ่นไปที่รูเตง คุณต้องซื้อตั๋วล่วงหน้า หรือไม่ก็เช่าก็รถก็ได้ ระหว่างทางคุณจะผ่านทุ่งนารูปใยแมงมุม และยังมีหมู่บ้านมังกาไร (Manggarai) ดั้งเดิมที่น่าสนใจอีกสองหมู่บ้านล้อมรอบรูเตงด้วย ถ้ามีเวลาก็น่าแวะชม
โรงแรมในรูเตง
เที่ยวบินไปโคโมโด
/ นั่งรถแท็กซี่หรือขับรถจากรูเตงไปบาจาวา
5) บาจาวา (Bajawa) – 1 วัน
เมื่อเดินทางต่อไปทางตะวันออกก็จะถึงบาจาวา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตแบบหมู่บ้านพื้นเมืองที่ยังไม่ได้รับอิทธิพลจากโลกภายนอก แวะไปชมน้ำพุร้อนที่ใช้อาบได้และวิวภูเขาไฟ
โรงแรมในบาจาวา
เที่ยวบินไปบาจาวา
/ นั่งรถแท็กซี่หรือขับรถจากบาจาวาไปเคลิมูตู
6) ภูเขาไฟเคลิมูตู (Kelimutu Volcano) – 3 วัน
ขับรถ 3 ชั่วโมงจากบาจาวาก็จะถึงเคลิมูตู ระหว่างทางคุณจะผ่านหุบเขาและทุ่งนาที่โอบล้อมหมู่บ้านโมนี (Moni)
เข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อเริ่มต้นวันใหม่แต่เช้าตรู่ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นเพื่อเดินขึ้นเคลิมูตู ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่มีปากปล่องเป็นทะเลสาบสามแห่ง ทั้งสามนี้มีสีแตกต่างกันไปตามแร่ธาตุที่มีต้นกำเนิดจากภูเขาไฟนี้ เดินหาตำแหน่งที่คุณจะเห็นทะเลสาบทั้งสามพร้อมกัน พอตกบ่ายก็ไปเดินเล่นที่ตลาดและแหล่งเกษตรกรรมท้องถิ่น และไปดูชาวบ้านทอผ้ากัน
นั่งเรือกลับมาที่ลาบูอันบาโจในวันรุ่งขึ้นเพื่อบินกลับมาที่เมืองเอ็นเด (Ende) และขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย
โรงแรมในเคลิมูตู
เที่ยวบินไปบาจาวา
นั่งเรือเข้าแผ่นดินใหญ่
บินจากสนามบินเอ็นเด (ENE) กลับกรุงเทพฯ (BKK)
เส้นทางชวา – 10 วัน – แผนการเดินทางในอินโดนีเซีย
ขณะเดินทางผ่านชวาตะวันออก คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดจากวัด พระราชวัง และตลาดต่างๆ ที่อยู่ระหว่างทาง สถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจเหล่านี้เป็นสิ่งบอกเล่าถึงอารยธรรมโบราณได้เป็นอย่างดี ในช่วงท้ายของทริป ให้รางวัลตัวเองด้วยวิวตระการตาจากยอดเขาโบโมร (Mount Bromo) และคาวาอีเจียน (Kawah Ijen)
บินจากกรุงเทพฯ (BKK) ไปยอกยาการ์ตา (JOG)
[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-ยอกยาการ์ตา’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’JOG’ dest_region=’1718′ ]
1) ยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) – 3 วัน
ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางบรรยากาศวัด ที่ไหนจะดีไปกว่าวัดบุโรพุทโธอันโด่งดังซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO วัดอีกแห่งที่น่าไปเยือนคือวัดปรัมบานัน (Prambanan Temple) ที่ภายในมีเจดีย์ฮินดูที่สร้างโดยอาณาจักรมาตาราม (Mataram)
ขณะอยู่ที่นี่ สถานที่สุดตระการตาอีกแห่งที่ห้ามพลาดก็คือพระบรมมหาราชวังซึ่งเป็นที่ประทับของสุลต่านผู้ยิ่งใหญ่ของอินโดนีเซีย พระราชวังนี้เป็นประตูสู่ประวัติศาสตร์อินโด มีวัตถุโบราณและคอลเลกชั่นของเก่าวินเทจที่จัดแสดงอยู่ภายในบริเวณ
โรงแรมในยอกยาการ์ตา
เที่ยวบินไปยอกยาการ์ตา
ขับรถจากยอกยาการ์ตาไปเมราปี
2) ภูเขาเมราปี (Mount Merapi) – ครึ่งวัน
ภูเขาเมราปี หรือที่รู้จักกันในชื่อกูนุงเมราปี (Gunung Merapi) เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับซึ่งตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างชวากลางกับยอกยาการ์ตาของอินโดนีเซีย ภูเขาลูกนี้เป็นที่รู้จักในฐานะภูเขาไฟที่ร้อนระอุมากที่สุดในอินโดนีเซีย มีรายงานการระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อปี 2014
โรงแรมใกล้อุทยานแห่งชาติกูนุงเมราปี
เที่ยวบินไปยอกยาการ์ตา
ตัวเลือก: ทริปหนึ่งวันที่กาลิอุรัง (Kaliurang)
ระหว่างทางขับรถไปที่ภูเขาเมราปี คุณจะผ่านเมืองคาลิอุรัง ซึ่งเป็นเมืองรีสอร์ตที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดี โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาที่พักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ลงแช่ในทะเลสาบสีน้ำเงินที่คุณจะได้รับ “การบำบัดจากปลา” ที่เหล่าปลาตัวน้อยจะมารุมตอดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้คุณเอง
โรงแรมในกาลิอุรัง
เที่ยวบินไปกาลิอุรัง
ขับรถจากเมราปีกลับไปยอกยาการ์ตา
บินไปสุราบายา
3) สุราบายา (Surabaya ) – 1 วัน
นั่งรถกลับมาที่ยอกยาการ์ตา แล้วบินจากที่นั่นมาลงสุราบายา ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง แม้ว่าสุราบายาจะเป็นเพียงจุดแวะพักระหว่างทางไปโบรโม แต่คุณก็อาจแวะที่ตลาดดอกไม้สดเพื่อชมวิถีชีวิตของคนเมืองนี้และเรียนรู้เกี่ยวกับผ้าบาติกและงานหัตถกรรมที่ศูนย์หัตถกรรมมิโรตาได้ (Mirota Craft Centre)
โรงแรมในสุราบายา
เที่ยวบินไปสุราบายา
นั่งรถไฟจากสุราบายาไปบังงิล
นั่งแท็กซี่ไปภูเขาไฟโบรโม
4) ภูเขาไฟโบรโม (Mount Bromo) – 2 วัน
นั่งรถไฟจากสถานีสุราบายา กูเบง (Surabaya Gubeng) มาลงที่บังงิล (Bangil) แล้วต่อแท็กซี่จากบังงิลมาที่ภูเขาไฟโบรโม ถ้าคุณตั้งใจจะเดินขึ้นเขาโบรโม ให้พักที่โปรโบลิงโก (Probolinggo) ซึ่งอยู่บริเวณฐานภูเขา
ที่นี่มีจุดชมวิวสามจุดให้ชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือโบรโม ทัวร์ส่วนใหญ่จะไปกันที่จุดชมวิวสูงสุดที่ความสูง 2,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ถ้าคุณไม่อยากเบียดกับคนเยอะๆ ให้ไปที่ King Kong Hill ที่มีวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยไม่แพ้กัน
การเดินไปที่ปากปล่องโบรโมใช้เวลา 30 นาที คุณต้องเดินผ่านทุ่งลาวาแล้วขึ้นบันไดไปสูง เมื่อไปถึงปากปล่อง คุณได้จะเห็นขอบปล่องภูเขาไฟแบบใกล้ชิดเต็มตา
โรงแรมใกล้ภูเขาไฟโบรโม
เที่ยวบินไปโวโนกิตรี
/ นั่งแท็กซี่หรือขับรถจากภูเขาไฟโบรโมไปภูเขาคาวาอีเจียน
5) ภูเขาคาวาอีเจียน (Mount Ijen) – 2 วัน
ถ้ายังไม่เบื่อกับการเดินขึ้นเขา เหตุผลอีกข้อที่คุณน่าจะเดินขึ้นภูเขาคาวาอีเจียนก็คือเพื่อดูเปลวไฟเต้นระบำสีน้ำเงินอันน่าตื่นตาตื่นใจ แม้จะต้องขับรถไปทางตะวันออกถึง 5 ชั่วโมง แต่ทิวทัศน์ของที่นี่คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน ไฟสีน้ำเงินสดนี้เกิดจากการเผาไหม้ของก๊าซซัลฟิวริก คุณต้องสวมหน้ากากขณะเดินเขาคาวาอีเจียน เพราะม่านหมอกก๊าซซัลฟิริกนั้นแรงมาก การเดินขึ้นไปที่ยอดจากบันยูวังงี (Banyuwangi) ซึ่งอยู่ที่ตีนเขาใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
โรงแรมในบันยูวังงี
เที่ยวบินไปบันยูวังงี
นั่งเรือจากภูเขาคาวาอีเจียนไปบาหลี
6) บาหลี (Bali) – 1 วัน
นั่งเรือข้ามฟากกลับไปที่เกาะบาหลีซึ่งใช้เวลา 30 นาที จากนั้นต่อรถไปที่กลางเมืองอีก 130 กม. กลับมาพักร่างและดูแลขาหลังจากใช้งานมาอย่างหนักในการปีนเขาต่างๆ ที่สปาและร้านนวดที่มีให้เลือกมากมายในบาหลี
โรงแรมในบาหลี
เที่ยวบินไปบาหลี
บินจากท่าอากาศยานบาหลี (DPS) กลับกรุงเทพฯ (BKK)
สุมาตราเหนือ – 7 วัน – แผนการเดินทางในอินโดนีเซีย
ทริปนี้จะพาคุณไปเยือนทะเลสาบโทบา (Lake Toba) ซึ่งเป็นทะเลสาบภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วไปเดินลุยป่าฝนในอุทยานแห่งชาติบูกิตลาวัง (Bukit Lawang National Park) ทักทายเพื่อนสัตว์เขตร้อนที่คุณจะพบเจอระหว่างทาง ใครจะไปรู้ ทริปนี้อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่คุณจะได้เห็นสัตว์ป่าพื้นเมืองเหล่านี้ก็ได้
บินจากกรุงเทพฯ (BKK) ไปท่าอากาศยานกัวลานามู (KNO)
[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-เมดาน’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’KNO’ dest_region=’2263′ ]
1) เมดาน (Medan) – 1 วัน
เดินทางไปเมดานโดยบินไปลงที่ท่าอากาศยานกัวลานามู (Kualanamu International Airport) ด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เมดานจึงขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารรสชาติจัดจ้านที่สร้างสรรค์ได้อย่างน่าอร่อย ขณะเดินชมเมืองท่ามกลางการจราจรขวักไขว่ ลองชิมของว่างที่โด่งดังของที่นี่ นั่นคือ Bolu Meranti ที่มีลักษณะเหมือนเค้กโรลที่ทาครีมรสต่างๆ
ไปชมพระราชวังไมมูน (Maimoon Palace) และมัสยิดรายา อัลมาชุน (Raya Al-Mashun Mosque) หรือที่รู้จักในชื่อมัสยิดใหญ่แห่งเมดาน นี่มัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมดาน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความไม่ลงรอยระหว่างชาวอาเจะห์กับชาวเดลิด้วย
โรงแรมในเมดาน
เที่ยวบินไปเมดาน
/ ขับรถหรือนั่งแท็กซี่จากเมดานไปเบอราสตากี
2) เบอราสตากี (Berastagi) – 1 วัน
เบอราสตากีเป็นเมืองขนาดเล็กแต่ขวักไขว่ อยู่ห่างจากเมดาน 70 กม. ใช้เวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมง ที่นี่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว แต่คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตการทำมาหากินของชาวเมือง ทั้งการปลูกผักและผลไม้ ได้ชมวิวภูเขาที่สวยงาม มองหาภูเขาสิบายัก (Sibayak) และสินาบัง (Sinabung) ถ้าอยากเห็นทิวทัศน์แบบกว้างๆ ของเขาทั้งสองลูก ต้องไปที่กันดาลิงฮิลล์ (Gundaling Hill)
โรงแรมในเบอราสตากี
เที่ยวบินไปเบอราสตากี
/ ขับรถหรือนั่งแท็กซี่จากเบอราสตากีไปทะเลสาบโทบา
3) ทะเลสาบโทบา (Lake Toba) – 2 วัน
ขับรถจากเบอราสตากีมาอีก 3 ชม. ก็จะถึงทะเลสาบโทบา ซึ่งเป็นทะเลสาบภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก นี่เป็นที่ที่เกิดการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่เมื่อกว่า 77,000 ปีที่แล้ว ซึ่งก่อให้เกิดทะเลสาบแห่งนี้ขึ้น ตรงกลางทะเลสาบมีเกาะซาโมซีร์ (Samosir Island) ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวบาตัก (Batak) ผู้ใจดี มีที่พักหลายแบบให้เลือก ทั้งรีสอร์ตสไตล์บาตัก เกสต์เฮาส์ หรือโรงแรมในเมืองปาราปัด (Parapat) ที่อยู่ติดกับทะเลสาบโทบา
โรงแรมในซาโมซีร์
เที่ยวบินไปเบอราสตากี
/ ขับรถหรือนั่งแท็กซี่จากทะเลสาบโทบาไปบูกิตลาวัง
4) บูกิตลาวัง (Bukit Lawang) – 2 วัน
ขับรถ 5 ชั่วโมงมาที่บูกิตลาวัง ซึ่งอยู่ห่างจากเมดาน 86 กม. และอยู่บริเวณมุมหนึ่งของอุทยานแห่งชาติกุนุงลูเซอร์ (Gunung Leuser National Park) อันกว้างใหญ่ไพศาล ที่นี่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและมีแม่น้ำใสไหลแรงอันตระการตาหลายสาย
ตื่นเช้าแล้วออกไปเดินลุยป่าฝนในอุทยานแห่งชาติบูกิตลาวัง ไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณพบกับอุรังอุตัง ลิงโทมัสลีฟ และชะนี และคุณยังจะมีโอกาสชมการให้อาหารลิงอุรังอุตังที่ศูนย์ฟื้นฟูอีกด้วย กิจกรรมอย่างอื่นก็มี อย่างเช่นการล่องแพและห่วงยางไปตามแม่น้ำในป่าฝนอันน่าอัศจรรย์
โรงแรมในบูกิตลาวัง
เที่ยวบินไปบูกิตลาวัง
/ ขับรถหรือนั่งแท็กซี่จากบูกิตลาวังไปเมดาน
5) เมดาน – 1 วัน
บินจากท่าอากาศยานกัวลานามู (KNO) กลับกรุงเทพฯ (BKK)