7 เคล็ดลับและกฎแปลกๆ บนเที่ยวบินที่ไม่มีใครบอกคุณ!

สวัสดีครับเพื่อนๆ เวลาที่เพื่อนๆ อยู่บนเที่ยวบินเพื่อนๆ เคยรู้สึกไหมครับว่ามักมีกฎและเรื่องราวแปลกๆ มาให้เราได้เห็นหรือได้ทำตามอยู่เสมอๆ หลายๆ คนก็คงเข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย แต่หลายๆ อย่างก็กลับเป็นเรื่องแปลกที่แม้แต่พนักงานบนเครื่องก็ไม่ได้บอกคุณไว้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำอย่างไรให้ได้บริการจากแอร์อย่างรวดเร็วระหว่างเที่ยวบิน ทำไมเราต้องเปิดหน้าต่างตอนแลนดิ้ง หรือทำอย่างไรถึงจะสามารถเคลมกระเป๋าได้เร็วขึ้น ไปดูกันเลยครับ

เคล็ดลับและกฎแปลกๆ บนเที่ยวบินที่ไม่มีใครบอกคุณ!

1) อย่าเปิดประตูใดๆ บนเที่ยวบิน

การพยายามเปิดประตูใดๆ บนเครื่องเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เลยนะครับ และอาจทำให้เพื่อนๆ เจอดีเข้าให้ด้วย เพราะผู้โดยสารที่พยายามจะเปิดประตูระหว่างอยู่บนเที่ยวบินมีสิทธิ์โดนจับกุมได้เมื่อเครื่องลงจอด และกัปตันก็มีสิทธิ์จะนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินเพื่อไล่คุณออกไปจากเครื่องก่อนด้วยครับ สาเหตุมาจากการเปิดประตูเครื่องบินโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งก่อนเครื่องขึ้นหรือขณะเครื่องกำลังบินอยู่มีโอกาสทำให้แรงดันอากาศไม่ปกติ และสร้างความเสียหายให้กับทั้งเครื่องบินและผู้โดยสารคนอื่นๆ ได้ครับ อันตรายมากเลยนะครับ

2) เลิกขอชาหรือกาแฟบนเที่ยวบิน

อย่างที่เรารู้กันว่าสุขอนามัยของเครื่องบินนั้นไม่ได้เรื่องเลย เนื่องจากว่าในแต่ละเที่ยวมีผู้โดยสารหนาแน่น แถมวันๆ นึงมีเที่ยวบินไม่รู้กี่รอบ โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายแฝงตัวอยู่ในสิ่งต่างๆ จึงสูงมาก และสิ่งสกปรกอีกสิ่งหนึ่งที่คนมักมองข้ามก็คือน้ำที่ใช้ดื่มจากเครื่องบินนั่นเองครับ ไม่ว่าน้ำนั้นจะอยู่ในส่วนประกอบของชา กาแฟ หรือในถ้วยบะหมี่ก็ควรหลีกเลี่ยงให้หมดนะครับ แม้แต่แอร์โฮสเตสเองยังเลือกไม่ดื่มน้ำจากบนเครื่องบินเลยครับเว้นแต่ว่าจะเป็นน้ำบรรจุขวด โดยกว่า 15% ของตัวอย่างน้ำที่นำไปตรวจสอบพบว่ามีแบคทีเรียที่อาจทำอันตรายต่อร่างกายเพื่อนๆ อยู่อื้อเลยครับ

3) จองตั๋วเครื่องบินรอบเช้าเข้าไว้ป้องกันไฟลต์ดีเลย์

อันนี้ก็ถือเป็นกฎเหล็กอีกข้อหนึ่งที่เพื่อนๆ ควรจำไปปฏิบัติตามเลยนะครับ ถ้าเรารู้ว่าสายการบินไหนมักมีแนวโน้มจะดีเลย์ให้เพื่อนๆ จองตั๋วเครื่องบินรอบเช้าเลย ยิ่งเช้ายิ่งดี เพื่อลดปัญหาไฟลต์ดีเลย์เนื่องจากมีเที่ยวบินหนาแน่นในช่วงกลางวันนั่นเองครับ

4) เหตุผลของการเปิดหน้าต่างตอนเที่ยวบินลงจอด

แอร์โฮสเตสมักบอกให้เราเปิดหน้าต่างก่อนเครื่องจะลง เขาก็มีเหตุผลของเขานะครับ นั่นก็คือว่าแอร์โฮสเตสจะต้องทำหน้าที่ประเมินสภาพภายนอกก่อนที่เขาจะเปิดประตูให้เรานั่นเอง เช่น ถ้าหากภายนอกมีไฟไหม้ น้ำท่วม หรือมีหินระเกะระกะอะไรก็ตาม เขาจะได้รู้ทันทีว่าควรจัดการอย่างไรเพื่อให้ผู้โดยสารปลอดภัยครับ

5) เช็คอินทีหลังจะได้เคลมกระเป๋าก่อนใครนะจ๊ะ

เรื่องนี้เป็นโลจิกง่ายๆ ที่ทุกเที่ยวบินทำกันครับ นั่นก็คือใครที่เช็คอินก่อน กระเป๋าของพวกเขาก็จะถูกโหลดขึ้นไปอยู่ส่วนหน้าของเครื่องบินก่อน เพื่อที่ว่าน้ำหนักตรงนั้นจะมาช่วยถ่วงดุลเวลาขับอากาศยานนั่นเองครับ ทำให้ผู้ที่เช็คอินคนสุดท้ายกระเป๋าก็จะอยู่ใกล้ๆ กับประตูโหลดลงมากกว่า เมื่อเครื่องลงจอดถึงจุดหมายจึงทำให้กระเป๋าใบนั้นโหลดลงก่อนใครครับ

6) ห้ามนำเอาแอลกอฮอล์ขึ้นมาเองบนเที่ยวบิน

หลายคนเวลาเข้าดิวตี้ฟรีชอบแอบซื้อเซ็ตแอลกอฮอล์ขวดเล็กๆ หวังว่าขึ้นเครื่องแล้วจะได้เอามาใส่น้ำส้มกินเอง แต่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้แอร์โฮสเตสรู้แน่นอนครับ การนำแอลกอฮอล์ขึ้นมาบนเครื่องเองเป็นสิ่งต้องห้าม เนื่องจากว่าพนักงานจะต้องรู้ตลอดเวลาว่าเพื่อนๆ ได้ทานแอลกอฮอล์ไปแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ และควรจะหยุดเสิร์ฟให้เพื่อนๆ ตอนไหน เพื่อกันไม่ให้เพื่อนๆ เมาจนขาดสติแล้วสร้างความวุ่นวายให้คนอื่นนั่นเองครับ

7) ถ้าอยากได้บริการที่ดีขึ้นก็ต้องไปนั่งท้ายเครื่อง

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะอยากนั่งที่หัวเครื่องเพื่อจะได้ลงจากเครื่องก่อนและมีโอกาสเลือก Option อาหารมากกว่า แต่ถ้าหากเพื่อนๆ เลือกนั่งท้ายเครื่องก็จะได้บริการที่ดีและรวดเร็วกว่าครับ นั่นเป็นเพราะว่าส่วนเก็บเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ มักจะอยู่ท้ายเครื่อง และถ้าหากมีคนเรียกแอร์โฮสเตสจากต้นลำ แอร์โฮสเตสก็ต้องเดินไปบริการให้ ถ้าหากเพื่อนๆ เลือกที่นั่งท้ายลำบนเครื่อง แอร์โฮสเตสก็จะหยิบของและบริการเพื่อนๆ ได้สะดวกรวดเร็วมากกว่านั่นเองครับ

หวังว่าวันนี้เพื่อนๆ จะได้รับสาระน่ารู้เรื่องการเดินทางจากพี่หมีโกแบร์กันจนเต็มอิ่มเลยนะครับ และจำไว้ว่าก่อนที่เพื่อนๆ จะเดินทางไม่ว่าด้วยเที่ยวบินไหนก็ตาม อย่าลืมทำประกันการเดินทางไว้อุ่นใจทุกเวลานะครับ เพื่อนๆ สามารถเปรียบเทียบประกันการเดินทางได้ที่เว็บไซต์โกแบร์เลยครับ

บทความดีๆ จาก

พี่หมี Gobear