โดย Expedia Team, 25 June 2017

รวม 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ที่ไม่ควรพลาด!

ถ้าพูดถึงลิสต์ปลายทางในฝันของใครหลายคนแล้ว 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่นั้นก็คงเป็นอีก 7 ปลายทางในฝันของนักเดินทางหลายๆ คนที่ต้องการจะไปเยี่ยมชม มองเห็น และสัมผัสสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่อลังการเหล่านี้ ซึ่งสถานที่แต่ละแห่งนั้นต่างมีเรื่องราวความเป็นมาที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนานบนโลกใบนี้ของเรา โดย 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่นั้นได้มีการประกาศไว้ ณ วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ณ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยองค์กร The New Open World Corporation (NOWC) ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งจะมีที่ไหนกันบ้างลองมาดูกันเลยดีกว่า

รวม 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ที่ไม่ควรพลาด!


1

ชีเชนอิตซา (Chichen Itza) ประเทศเม็กซิโก

1-Chichen-Itza

ภาพจาก : iStockPhoto

ชีเชนอิตซา (Chichen Itza) เมืองเก่าและแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ในรัฐยูกาตัง ประเทศเม็กซิโก ที่มีชื่อเสียงที่สุดของชนเผ่ามายา ภายในชีเชนอิตซามีโบราณสถานสำคัญมากมาย เช่น วิหารนักรบ วิหารนักบวช หอคอยสังเกตการณ์เอลการากอล และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ “พีระมิดเอลกัสตีโย” วัดของชนเผ่ามายาที่มีลักษณะเป็นพีระมิดยอดตัด มีบันไดทั้งหมด 4 ด้าน ด้านละ 91 ขั้น เมื่อนับรวมกับฐานจะได้ 365 ขั้น หรือเท่ากับจำนวนวันใน 1 ปี ตามปฏิทินของชาวมายา โดยตรงกลางบนยอดพีระมิดจะใช้เป็นที่ประกอบพิธีสังเวยเทพเจ้า ซึ่งมีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไป

ความน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของพีระมิดนี้ก็คือตัวพีระมิดหันหน้าไปยังตำแหน่งที่เกิดปรากฎการณ์วิษุวัต หรือปรากฏการณ์ที่โลกมีเวลากลางวันยาวนานเท่ากับเวลากลางคืน ซึ่งจะเกิดในเดือนมีนาคมและกันยายน โดยแสงอาทิตย์จะส่องผ่านบันไดด้านทิศเหนือเป็นเงาพาดตัวพีระมิด ดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เดือนมีนาคมและกันยายนจึงเป็นช่วงที่ Expedia ขอแนะนำให้ทุกคนไปเที่ยวชีเชนอิตชากัน

ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
ตุลาคม – เมษายน เพราะอากาศจะเย็นสบาย

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-แคนคูน’ deals=’packages,hotels,flights’]

2

รูปสลักพระเยซูคริสต์ (Christ The Redeemer) ประเทศบราซิล

2-Christ-the-Redeemer

ภาพจาก: iStockPhoto

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ในลำดับถัดมาคือ กริชตูเรเดงโตร์ หรือ Christ The Redeemer รูปสลักพระเยซูคริสต์ความสูง 38 เมตร แขนยาว 28 เมตร สัญลักษณ์อันโด่งดังของประเทศบราซิล แกะสลักจากหินสบู่ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่ที่ยอดเขากอร์โกวาดู ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลักของประเทศบราซิล และรูปสลักนี้ก็ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาโดยหันพระพักตร์ของพระเยซูคริสต์เข้าหาเมือง ให้เสมือนว่าเมืองอยู่ใต้การคุ้มครองของพระองค์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในประเทศ

รูปสลักพระเยซูคริสต์เปิดให้ชมทุกวัน และหากเป็นไปได้ควรเลือกเข้าชมวันธรรมดา เพราะวันเสาร์อาทิตย์คนจะพลุกพล่านกว่า การชมรูปสลักมีอยู่ 3 ช่องทางด้วยกันคือ

1) นั่งรถรางจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินคอร์โควาโด (Corcovado) ราคา 46 BRL สำหรับผู้ใหญ่ และ 23 BRL สำหรับเด็ก ซึ่งจะรวมค่ารถไฟไปกลับและค่าเข้าชมรูปสลักพระเยซูคริสต์แล้ว โดยรถรางจะผ่านอุทยานแห่งชาติทีชูคา (Tijuca) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะชื่นชมบรรยากาศของอุทยานแห่งชาติ

2) นั่งรถตู้ขึ้นไปบนยอดเขา โดยมีค่าบริการ 18 BRL

3) นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมรูปสลักพระเยซูคริสต์และเมืองริโอเดอจาเนโรจากมุมสูงในราคา 600 BRL สำหรับเที่ยวบิน 30 นาที

ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
กันยายน – ตุลาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-รีโอเดจาเนโร’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’RIO’ dest_region=’178301′ ]

3

กำแพงเมืองจีน (Great Wall Of China) ประเทศจีน

3-Great-Wall-of-China

ภาพจาก : iStockPhoto

กำแพงเมืองจีน หรือ Great Wall Of China เป็นทั้ง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง และสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ แถมยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย กำแพงเมืองจีนน่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และเชื่อได้เลยว่าหลายคนอาจเคยไปเยือนมาแล้ว

กำแพงเมืองจีนก่อสร้างขึ้นเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการเข้ามารุกรานดินแดนทางเหนือจากชาวมองโกเลียและชาวเติร์ก โดยกำแพงเมืองจีนมีความยาวกว่า 21,196 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15 มณฑลทั่วประเทศจีน มีลักษณะเป็นกำแพงยาวแบบมีป้อมคั่น

กำแพงเมืองจีนมี 7 ด่านสำคัญ ได้แก่

1. ด่านจินซานหลิ่ง 5. ด่านมู่เถียนยวี่
2. ด่านซือหม่าไถ 6. ด่านจูหย่งกวน
3. ด่านเจี้ยนโค่ว 7. ด่านปาต้าหลิง
4. ด่านหวงฮวาเฉิง

 

โดยด่านปาต้าหลิงจะเป็นที่นิยมมากที่สุดและมีกระเช้าให้บริการ ในขณะที่ด่านจูหย่งกวนเป็นที่นิยมในกลุ่มทัวร์ไทยเพราะเป็นด่านที่ใกล้ปักกิ่งมากที่สุด แต่หากต้องการเดินทางไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนด้วยตนเอง Expedia แนะนำให้ไปเที่ยวที่ด่านปาต้าหลิง (Badaling) หรือ ด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu) เพราะเดินทางสะดวก เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง และควรไปวันธรรมดา เนื่องจากวันเสาร์ อาทิตย์คนจะเยอะมากเป็นพิเศษ

ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
เมษายน – ตุลาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-ปักกิ่ง’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’PEK’ dest_region=’178237′ ]

4

มาชูปิกชู (Machu Picchu) ประเทศเปรู

4-Machu-Picchu

ภาพจาก : iStockPhoto

มาชูปิกชู (Machu Picchu) หรือที่คุ้นกันในชื่อ “นครสาบสูญแห่งอินคา” เป็นสถานที่สำคัญของชนเผ่าอินคา และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่ ที่ได้ชื่อว่าเมืองสาบสูญเพราะผู้คนอพยพออกจากดินแดนแห่งนี้ไปหมด เนื่องจากการรุกรานของชาวสเปน และถูกลืมไปนานนับร้อยปีจนนักโบราณคดี ไฮแรม บิงแฮม ได้มาค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2454

มาชูปิกชูตั้งอยู่ห่างจากเมืองกุสโกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 70 กิโลเมตร ลักษณะเมืองเป็นป้อมปราการแบบลดหลั่นเป็นขั้น ภายในมีซากวัด พระราชวัง น้ำพุ และแท่นบูชา และสถาปัตยกรรมประณีตอีกมากมาย โดยนักสำรวจได้คิดค้นทฤษฎีเหตุผลในการก่อสร้างมาชูปิกชูขึ้นมามากมาย เช่น เพื่อบูชาพระเจ้า เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศของจักรพรรดิอินคา เป็นสถานีทดลองเกษตรกรรม เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ฯลฯ ส่วนไฮไลท์ของมาชูปิกชูอยู่ที่การ์ดเฮาส์ (Guardhouse) ซึ่งเพื่อนๆ จะมองเห็นมาชูปิกชูในมุมกว้างได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้การเที่ยวชมมาชูปิกชูให้ได้อรรถรสเพิ่มขึ้นควรไปช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เพราะเป็นช่วงปลอดฝน ทำให้ท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย

ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
พฤษภาคม – ตุลาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-กุสโก’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’CUZ’ dest_region=’941′ ]

4

นครเปตรา (Petra) ประเทศจอร์แดน

5-Petra

ภาพจาก : iStockPhoto

นครเปตรา (Petra) มหานครศิลาทรายสีชมพูหรือนครสีดอกกุหลาบ เป็นเมืองหินที่แกะสลักอย่างประณีตงดงาม ตั้งอยู่ในเมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน เป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลาง นครหินแห่งนี้อยู่ในหุบเขาระหว่างทะเลเดดซีกับอ่าวอะกาบา

ผู้สร้างนครเปตราคือชาวนาบาเทียน ชนเผ่าที่สกัดผาหินทรายสร้างเป็นบ้านเมือง แต่ก่อนที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายยางไม้หอมและกำยานที่สำคัญของโลกตะวันออก การล่มสลายของเมืองเปตราเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 649 เนื่องจากมีการก่อตั้งเมืองใหม่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยกว่าหลายเมือง ทำให้นครเปตราเริ่มเสียดุลการค้า โดนรุกราน และไม่มีผู้คนอยู่อาศัยในที่สุด

นอกจากจะเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่แล้ว นครเปตรายังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2528 และได้รับการกล่าวถึงว่า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติที่ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่ง นครเปตรามีขนาดใหญ่และกว้างมาก ถ้าใครอยากเที่ยวให้ทั่วอาจต้องใช้เวลาหลายวัน ไฮไลท์ของที่นี่คือมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์เอล-คาซเนท์ วิหารแกะสลักบนภูเขาสีชมพูซึ่งสวยงามอย่างมากจนถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อินเดียน่า โจนส์ ในภาคขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าด้วย นครเปตรามีกิจกรรม Petra Night ในช่วงกลางคืนวันจันทร์ พุธ และพฤหัสบดีตั้งแต่เวลา 20.00 เป็นต้นไปด้วย โดยจะมีการจุดเทียนนับพันเล่มบริเวณหน้าเอล-คาซเนท์ และมีการแสดงแสงสีเสียงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนครเปตรา ค่าเข้าร่วมกิจกรรม Petra Night จะอยู่ที่ 17 JOD สามารถซื้อตั๋วได้ที่จุดขายตั๋วด้านหน้านครเปตราก่อนเวลา 16.00 น.

ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
มีนาคม – มิถุนายน

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-อัมมาน’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’AMM’ dest_region=’375′ ]

6

โคลอสเซียม (Colosseum) ประเทศอิตาลี

6-Colosseum

ภาพจาก : iStockPhoto

โคลอสเซียม (Colosseum) เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีอายุกว่า 2,000 ปี ในอดีตโคลอสเซียมเป็นสนามกีฬาสำหรับชมการต่อสู้ของนักรบมากความสามารถและมีฝีมือเก่งฉกาจที่เรียกว่าเกลดิเอเตอร์ โดยการต่อสู้มีหลายรูปแบบทั้งการต่อสู้ระหว่างเกลดิเอเตอร์ด้วยกันเองและเกลดิเอเตอร์กับสัตว์ โคลอสเซียมถือเป็นความอัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมตัวจริงด้วยจุผู้ชมได้กว่า 50,000 คน มี 4 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 10 ปี ภายในประกอบด้วยอัฒจันทร์สำหรับผู้ชม ห้องนักสู้ กรงขังสัตว์ และห้องเก็บอุปกรณ์

ในปัจจุบันโคลอสเซียมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโรม ที่ยังคงรูปแบบอันงดงามและแข็งแรงของโรมันไว้ได้เป็นอย่างดี และควรเข้าชมโคลอสเซียมในช่วงเช้าตั้งแต่เริ่มเปิดเวลา 08.30 น. หรือก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง ประมาณ 14.30 น. เพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนจำนวนมากในระหว่างวัน

ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
มีนาคม – ตุลาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-โรม’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’FCO’ dest_region=’179899′ ]

7

ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ประเทศอินเดีย

7-Taj-Mahal

ภาพจาก : iStockPhoto

ทัชมาฮาล (Taj Mahal) เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เพียงสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นจากอานุภาพแห่งความรัก เป็นทั้งอนุสรณ์สถานแห่งความรักและสถาปัตยกรรมที่อยู่เหนือกาลเวลา ตั้งอยู่ในเมืองอัครา ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์และศิลาแลง ประดับเครื่องเพชรพลอยมากมาย เพื่อใช้เป็นอนุสาวรีย์ฝังศพของพระมเหสีในพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันที่ครองรักกันนานถึง 18 ปี

ทัชมาฮาลมีขนาดใหญ่ถึง 42 เอเคอร์หรือประมาณ 107 ไร่และใช้เวลาก่อสร้างกว่า 22 ปี ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเข้าชมคือช่วงพระอาทิตย์ขึ้น เพราะท้องฟ้าจะเป็นสีชมพูสวยงาม อากาศเย็นสบาย และผู้คนไม่พลุกพล่าน

ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
ตุลาคม – มีนาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-อัครา’ deals=’flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’DEL’ dest_region=’6126825′ ]