นอกจากนี้ยังเรียกได้ว่าอินซาดงเป็นบริเวณที่เงียบสงบอีกแห่งหนึ่งของโซล และมีร้านน้ำชารวมถึงแกลเลอรีศิลปะเต็มไปหมด
ถนนเส้นหลักอย่างถนนอินซาดงเคยเป็นลำธารที่แบ่งเมืองออกเป็นสองเมืองมาก่อน เมืองทั้งสองมีคำลงท้ายชื่อว่า "อิน" และ "ซา" และมีการเติมคำว่า ดง ซึ่่งแปลว่า ย่าน เข้าไปเมื่อเมืองทั้งสองกลายเป็นหนึ่งเดียว ในสมัยราชวงศ์โชซอน (1392 - 1910) ศิลปินผู้มีฝีมือล้วนแต่มุ่งหน้ามายังอินซาดงเพื่อมาศึกษาเล่าเรียน และทุกวันนี้ อินซาดงก็ยังคงเป็นชุมชนศิลปินอยู่ บนถนนสายหลักความยาว 700 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายงานฝีมือและเครื่องปั้นดินเผา
นอกจากนี้ อินซาดงยังถือเป็นที่ที่ดีที่สุดในโซลที่จะซื้อหาเครื่องแต่งกายท้องถิ่นอย่าง ฮันบก และกระดาษเขียนตัวหนังสือจีนทำมือ ของที่ขายอยู่ในอินซาดงมีราคาแตกต่างกันออกไป คุณสามารถหาซื้อของฝากราคาไม่แพงได้ที่นี่ ส่วนชิ้นงานเซรามิกหรือของเก่าราคาหลายพันดอลลาร์ก็มีให้เลือกซื้อได้ที่นี่เช่นกัน มาที่นี่แล้วอย่าลืมแวะไปที่ร้านขายหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดในโซลด้วย
มีแกลเลอรีศิลปะในอินซาดงกว่า 100 แห่ง Kakgojae Gallery เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย ส่วน The Gana Art Gallery ก็เป็นหนึ่งในแกลเลอรีศิลปะที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ทั้งสองแห่งต่างก็ดึงดูดความสนใจผู้คลั่งไคล้ศิลปะทั้งในเกาหลีและจากต่างประเทศได้อย่างดี
ร้านน้ำชากระจายตัวตามตรอกซอกซอยอยู่ทั่วถนนอินซาดง เดินหาและเลือกแวะนั่งพัก จิบเครื่องดื่มได้ตามใจ ที่นี่ มีชาผสมหลายชนิดให้ลองดื่ม และยังมีอาหารหรือขนมที่โดดเด่นเป็นต้องลอง เช่น ทีรามิสุรสชาเขียว เป็นต้น
มาที่อินซาดงแล้ว ต้องเผื่อเวลาให้กับการดื่มด่ำสถาปัตยกรรมในย่านนี้ด้วย คุณจะพบอาคารที่มีโครงสร้างเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 รวมถึงวัดวาอาราม โบสถ์ และแกลเลอรีร่วมสมัยที่จัดแสดงผลงานที่ทำจากแก้ว
เดินทางมาอินซาดงได้อย่างสะดวกโดยใช้บริการรถไฟใต้ดิน ลงที่สถานี Anguk ร้านค้าและแกลเลอรีเปิดให้บริการทุกวัน เวลาเปิดของแต่ละร้านแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มเปิดช่วงสายไปจนถึงเย็น ทุกสุดสัปดาห์ ถนนอินซาดงจะปิดไม่ให้รถราผ่าน เพราะจะใช้จัดเป็นพื้นที่สำหรับแผงขายสินค้าตั้งแต่ลูกอมไปจนถึงแผงดูดวง ต้องลองมาอินซาดงในวันเสาร์หรืออาทิตย์ เดินเล่นดูแผงขายของริมถนนและคุณจะอิ่มใจไปกับบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวา