ย่านไชน่าทาวน์ของเมืองโกเบซึ่งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหนานกิงมาชิมีร้านอาหารมากกว่า 100 ร้านและร้านค้าอีกหลายสิบร้าน ประตูสามแห่งที่ประดับด้วยลวดลายจีนโบราณและมังกรท่าทางขึงขังอย่างอลังการ ตั้งตระหง่านเป็นทางเข้าย่านนี้ ซึ่งเป็นไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น สำรวจอาหารริมทางที่โชยกลิ่นยั่วน้ำลายและร้านอาหารต่างๆ ที่เสิร์ฟอาหารคลาสสิกจากมณฑลต่างๆ ของจีน ตลอดจนร้านค้า วัดวาอาราม และศาลากลางเมืองที่ประดับประดาด้วยเครื่องหมายนักษัตร
ก้าวเข้าไปในไชน่าทาวน์ แล้วทิ้งประเพณีและอาหารญี่ปุ่นไว้เบื้องหลัง ย่านที่มีขนาดกว้าง 110 เมตรและยาว 270 เมตรแห่งนี้เป็นสถานที่พลุกพล่านที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีนขนานแท้ ย่านไชน่าทาวน์ของเมืองโกเบถือกำเนิดในปี 1868 ซึ่งเป็นเวลาที่เปิดเมืองโกเบขึ้นเป็นเมืองท่าภายใต้สนธิสัญญาและให้การต้อนรับชาวตะวันตก หลังจากที่ประเทศอยู่โดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน ผู้อพยพชาวจีนได้หลั่งไหลมาสู่บริเวณชายแดนของพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งได้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อหนานกิงมาชิ ในขณะที่ย่านนี้ถูกรื้อและทำลายลงในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ได้สร้างขึ้นมาใหม่ในทศวรรษ 1950 และได้กลายเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ลิ้มรสอาหารหลากหลายชนิดที่มาจากมณฑลต่างๆ ทั่วประเทศจีน รวมทั้งกวางตุ้ง ปักกิ่ง เสฉวนและเซี่ยงไฮ้ ลิ้มรสอาหารโปรดที่ทุกคนชื่นชอบ เช่น เป็ดปักกิ่ง ขนมเปี๊ยะ (มันจู) ติ๋มซำ เปาะเปี๊ยะ และก๋วยเตี๋ยว
ต่อราคากับคนขายที่เป็นมิตรในขณะที่เลือกซื้อของที่ระลึกแบบจีนโบราณ ร้านรวงที่ห้อยโคมแดงประดับขายสินค้าทุกชนิด ตั้งแต่ชาจีนและธูปไปจนถึงหมวกกองทัพปลดแอกประชาชนและกางเกงแพรหลากหลายสีสัน
มาเที่ยวในช่วงที่จัดงานประจำปี เพื่อสัมผัสความคึกคักและความมีชีวิตชีวาของเทศกาลของจีน งานฉลองเทศกาลตรุษจีน เทศกาลประดับโคมและเทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นเพียงตัวอย่างเทศกาลที่นำเสนอศิลปะการแสดงของจีน เครื่องแต่งกายที่งดงาม และศาลาที่ประดับโคมอย่างวิจิตรอลังการของจัตุรัสหลัก ร่วมเดินไปกับฝูงชนขนาดใหญ่ที่หลั่งไหลมาเที่ยวงานเทศกาลของจีนเหล่านี้
ใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดินโมโตมาชิ (Motomachi) ในย่านโมโตมาชิโดริมายังย่านไชน่าทาวน์ของเมืองโกเบ ร้านอาหารและร้านค้าหลายแห่งเปิดจนถึงช่วงดึก