หอคอยซึเท็นกะกุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้เมื่อไปเยือนเมืองโอซาก้า นักท่องเที่ยวมายังหอคอยแปดเหลี่ยมสูงตระหง่านแห่งนี้เพื่อชมวิวของเมืองโอซาก้าจากมุมสูง และแวะขอพรจากเทพเจ้า Billiken เทพแห่งความโชคดี
ด้วยความสูง 64 เมตร หอคอยซึเท็นกะกุเคยครองตำแหน่งหอคอยที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นเมื่อครั้งที่เปิดขึ้นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2455 ตัวหอคอยถูกไฟไหม้เสียหายครั้งใหญ่ในปีพ.ศ. 2499 แต่ก็ได้รับการสร้างและออกแบบใหม่โดยสถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น Tachu Naito และมีความสูงยิ่งกว่าเดิมที่ 103 เมตร ปัจจุบัน หอคอยซึเท็นกะกุยังคงตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าอันรุ่งเรือง
ถึงคิวรอเข้าชมหอคอยอาจจะยาวสักนิดในบางวัน แต่เมื่อคุณได้ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนแล้ว ทิวทัศน์ของเมืองที่จะได้เห็นก็คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน ระหว่างที่ชมวิว คุณสามารถศึกษาเรื่องราวของการก่อสร้างหอคอยได้จากป้ายข้อมูลภายในหอคอย
บนชั้นห้าของหอคอย คุณจะพบรูปปั้นของ Billiken เทพเจ้าแห่งความสุข เชื่อกันว่า หากใครได้ขอพรและลูบเท้าของรูปปั้นจะทำให้โชคดี
จากหอสังเกตการณ์ คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวของโอซาก้าได้แบบ 360 องศา ดื่มด่ำกับสีสันและบรรยากาศอั นอึกคักของโอซากาที่อยู่เบื้องล่างระหว่างวางแผนไปยังสถานที่ถัดไปบนลิสต์ของคุณ
ก่อนออกจากหอคอย อย่าลืมแวะร้านขายของที่ระลึกที่มีของฝากน่ารักๆ มากมายให้ได้เลือกซื้อกลับบ้าน เช่น ขวดน้ำทรงหอคอย โอริกามิ และรูปปั้นเทพเจ้า Billiken ขนาดจิ๋ว
ถ้าคุณไม่มีเวลายืนต่อคิวเพื่อรอขึ้นหอคอย ก็สามารถมาชมหอคอยที่เปิดไฟนีออนส่องสว่างในยามค่ำคืนแทนได้ แสงไฟหลากสีสันจากโฆษณาบนหอคอยเป็นภาพแบคกราวน์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปด้วย แถมยังช่วยให้คุณใช้เป็นจุดนัดพบระหว่างเดินเที่ยวในย่านนี้ได้
ถ้ารู้สึกหิวขึ้นมาหลังจากชมหอคอย คุณสามารถแวะไปหาของกินที่ฟู้ดคอร์ทด้านล่างได้ จากนั้นไปเดินเล่นพักผ่อนต่อที่สวนเทนโนจิอันเงียบสงบ หรือจะไปชมสัตว์ที่สวนสัตว์เทนโนจิที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้
คุณสามารถเดินทางไปยังหอคอยซึเท็นกะกุได้โดยรถไฟใต้ดิน หอคอยเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี ระหว่างเวลา 9:00 น. - 21:00 น. เด็กและนักเรียนจะได้รับส่วนลดค่าบัตรผ่านประตู
