แจ๊กสันสแควร์เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ของเมืองซึ่งรายล้อมไปด้วยอาคารดั้งเดิมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 และยังคงเป็นสถานที่ที่ศิลปินและนักดนตรีท้องถิ่นนิยมมาพบปะพูดคุยกัน จัตุรัสในเมืองแห่งนี้ออกแบบโดยชาวฝรั่งเศสนามว่า Louis Pilié และจำลองแบบมาจากลานกลางแจ้งยอดนิยมในกรุงปารีส แต่เดิมนั้นมีชื่อว่า Place d'Armes และได้กลายมาเป็นศูนย์การค้ากลางแจ้งในปี 1971 ที่มีร้านค้าท้องถิ่นมาขายอาหาร งานศิลปะ และงานฝีมือ
แจ๊กสันสแควร์ทุกวันนี้แทบไม่เหลือร่องรอยอันสดใสในอดีต ไม่มีตะแลงแกงที่เคยใช้ในการแขวนคอทาสในศตวรรษที่ 18 และ 19 ทุกวันนี้มีแต่ร้านค้าและพิพิธภัณฑ์ในศตวรรษที่ 19 ให้เยี่ยมชม รวมถึง Pontalba Apartments ซึ่งเรียงรายอยู่ริมสองฝั่งของจัตุรัส ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสจะได้เพลิดเพลินกับการชมผลงานตกแต่งภายในของมหาวิหารเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ยังคงเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่อง ศึกษาประวัติศาสตร์ของรัฐลุยเซียนาที่อาคาร Cabildo และ Presbytère ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์รัฐลุยเซียนาและตั้งอยู่ติดกับมหาวิหารทั้งสองฝั่ง
ปัจจุบันนี้แจ๊กสันสแควร์มีชื่อเสียงในด้านของศิลปินท้องถิ่นที่มีผลงานประดับประดาอยู่ตามทางเท้าและรั้วเหล็กดัด นั่งเป็นแบบให้วาดภาพเหมือน หรือเลือกซื้อภาพการ์ตูนล้อเลียนจากศิลปินกว่า 200 คนที่หมุนเวียนกันมาที่จัตุรัสแห่งนี้ตลอดทั้งปี
นั่งสบายๆ ชมผู้คนเดินผ่านไปมาที่ Café du Monde ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1860 คาเฟเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน Decatur และมีชื่อเสียงในเรื่องของกาเฟโอเลและโดนัทฝรั่งเศสเบียงเนต์
แจ๊กสันสแควร์มีการจัดงานเทศกาลและนิทรรศการที่หลากหลายตลอดทั้งปี ในเดือนเมษายนของทุกปี จะมีเทศกาลเฟรนช์ควอเตอร์ที่จะได้เพลิดเพลินกับวงดนตรีแจ๊ส ชิมอาหารท้องถิ่น และซื้อของฝากที่มีให้เลือกมากมายในตลาด ประมาณ 2 – 3 วันก่อนคริสต์มาสก็จะมีผู้คนมากมายออกมาร้องเพลงคริสต์มาสกันเต็มจัตุรัส กิจกรรมนี้เกิดขึ้นในปี 1946 และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นพันๆ คนต่อปี เพื่อระลึกถึงแจ๊กสันสแควร์เมื่อครั้งที่ยังมีการพบปะสังสรรค์กันอย่างบ่อยครั้ง
แจ๊กสันสแควร์เป็นย่านที่คึกคักย่านหนึ่งในเฟรนช์ควอเตอร์ ที่จอดรถจึงค่อนข้างหายาก แต่มีรถประจำทางหลายสายผ่านจัตุรัสแห่งนี้