แคนดี้คือเมืองตอนกลางของประเทศที่คุ้มค่าแก่การไปเยือนแห่งหนึ่งของศรีลังกา เนื่องจากมีวัดทางพุทธศาสนาอันเลื่องชื่อ ศิลปะที่มีชีวิตชีวา และมีกลิ่นอายยุคอาณานิคมอันน่าหลงใหล ปกติแคนดี้มีอุณหภูมิหนาวเย็น เนื่องจากตั้งอยู่ท่ามกลางเขตที่เรียกว่าฮิลล์คันทรี ซึ่งแวดล้อมด้วยเทือกเขาและหุบเขาที่สวยงามและปกคลุมด้วยไร่ชาอันอุดมสมบูรณ์ เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรสิงหล ก่อนตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษในปี 1815 รวมตัวกับนักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวในแคนดี้ที่ต้องการหลีกหนีจากเมืองชายฝั่งที่ร้อนระอุ
เยือนใจกลางเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์จากองค์การยูเนสโก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของ ทะเลสาบแคนดี้ เพื่อชมวัดและพระราชวังที่สวยงามมากมาย เที่ยวชม วัดพระเขี้ยวแก้ว อันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชมนิทรรศการเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของชาวพุทธทั่วโลกที่ พิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาโลก ชม โบสถ์เซนต์พอล จากศตวรรษที่ 19 และสุสานจากยุคอาณานิคมที่ สุสานแคนดี้ การ์ริสัน เรียนรู้เกี่ยวกับอาณาจักรสิงหลและการปกครองของอังกฤษที่ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ซึ่งตั้งอยู่ภายใน พระราชวังหลวง
สำรวจร้านค้างานหัตถกรรมและเดินชมตลาดช่างฝีมือ ขณะท่องไปตามถนนหนทางต่างๆ ในย่านการค้า เดินขึ้นเขาเพื่อชม พระพุทธรูป Bahirawa Buddha ที่โดดเด่นเป็นสง่า ในบริเวณใกล้เคียงเป็นที่ตั้งของ สนามกีฬา Asigiriya ซึ่งบรรดาแฟนๆ ต่างไปเชียร์ทีมไลออนส์หรือทีมชาติคริกเก็ตของศรีลังกา
เดินไปตามชายฝั่งของทะเลสาบแคนดี้ หรือร่วมล่องเรือนำเที่ยวที่ท่าเทียบเรือทะเลสาบแคนดี้ เดินท่ามกลางพระสงฆ์และผู้มีจิตศรัทธาที่วัด Malwathu Maha Viharaya ผ่อนคลายใน สวนสาธารณะเวลส์ ที่สวยงาม และเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันยอดเยี่ยมของตัวเมืองที่ จุดชมวิวแคนดี้
เดินผ่านป่าอันหนาทึบ สูดอากาศบริสุทธิ์บนเขา พลางชมนกนานาชนิดที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Udawattakelle ขึ้นรถโดยสารหรือรถสามล้อไปยัง Peradenuya ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สวนพฤกษชาติรอยัล ชมกล้วยไม้นานาชนิด สวนที่จัดเป็นระเบียบ ไร่เครื่องเทศ และอื่นๆ อีกมากมาย
นักท่องเที่ยวสามารถมาแคนดี้ได้โดยรถไฟซึ่งผ่านเส้นทางที่สวยงามจาก โคลอมโบเปิดในหน้าต่างใหม่ หรือ เอลลาเปิดในหน้าต่างใหม่ พักค้างคืนที่โรงแรมซึ่งซุกซ่อนตัวอยู่ในเนินเขารอบเมือง มาเยือนในฤดูร้อนเพื่อร่วมงาน Kandy Esala Perahera ที่ตระการตา อันเป็นประเพณีการเฉลิมฉลองพระเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าตลอดเวลา 10 วัน
