เกาะเกร็ดเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดนนทบุรี ในฐานะชุมชนโบราณริมแม่น้ำเจ้าพระยาของชาวมอญ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านเครื่องปั้นดินเผา และประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์
เกาะเกร็ดอยู่ห่างจากตัวเมืองกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 20 กิโลเมตร ตัวเกาะเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาตรงส่วนที่เป็นปลายแหลม ตั้งแต่เมื่อปี 2265 ในสมัยอยุธยา
ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทาง รวมถึงผลจากการที่น้ำกัดเซาะตลิ่ง แผ่นดินตรงนั้นจึงกลายเป็นเกาะ และเป็นพื้นที่ที่ชาวมอญมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดคงหนีไม้พ้นเครื่องปั้นดินเผา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ไหน เพราะเป็นเครื่องปั้นดินเผาแบบไม่เคลือบเงา มีสัดส่วนงดงาม และทำขึ้นโดยนำการแกะสลักลวดลายต่างๆ เข้ามาร่วมด้วย จึงทำให้ผลงานออกมาสวยงามกว่าการปั้นทั่วไป
ถ้าจะเดินชมเกาะเกร็ดให้ทั่ว คงใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 2-3 ชั่วโมง เริ่มต้นที่วัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งนับเป็นวัดเชิดหน้าชูตาของเกาะ เพราะไม่ว่าใครแวะมาที่วัดมอญอันเก่าแก่แห่งนี้ ก็ต้องแวะมาชมเจดีย์เอียงริมน้ำ และพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ในพระวิหาร
ต่อด้วยการเดินเลือกชิมอาหารคาวหวานที่มีให้เลือกสารพัดจนลายตา รวมถึงอาหารสูตรชาวมอญที่สืบทอดฝีมือกันมายาวนาน โดยเฉพาะทอดมันหน่อกะลา ที่ถ้าไม่ได้ทานเหมือนมาไม่ถึงเกาะเกร็ด นอกจากนี้ยังมีร้านขายน้ำที่ขายเครื่องดื่มพร้อมแก้วดินเผาที่ปั้นโดยฝีมือคนท้องถิ่น ดื่มเสร็จก็นำแก้วกลับบ้านได้เลย ใครต้องการของหวานตบท้าย ให้ไปที่ "คลองขนมหวาน" ที่มีขนมหวานโบราณอย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และทองเอก ให้เลือกซื้อมากมาย ก่อนกลับ อย่าลืมแวะไปที่พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา กวานอาม่าน ที่จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผามอญโบราณ และซื้อเทียนหอม เครื่องปั้นดินเผา กระถางเซรามิกน่ารักๆ กลับไปฝากคนที่บ้าน
การเดินทางไปยังเกาะเกร็ด สามารถขึ้นเรือข้ามฟากได้จากท่าน้ำวัดสนามเหนือ หรือหากไปกันหลายคน คุณสามารถเช่าเหมาเรือหางยาวได้จากท่าน้ำนนทบุรี บนเกาะเกร็ดเองก็มีจักรยานให้เช่าปั่นเที่ยวรอบเกาะ และมีเรือนำเที่ยวชมวิถีชีวิตริมน้ำ
