กิจกรรมในฟวยน์เตสอาอูโก

ปลาซามายอร์เป็นจุดศูนย์กลางที่เมืองขยายตัวออกไป จัตุรัสขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมยอดนิยมสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ดึงดูดนักเที่ยวชมสถานที่ด้วยอาคารขนาดใหญ่ในสไตล์บาโรก นั่งลงที่โต๊ะกลางแจ้งของร้านอาหารและร้านกาแฟหลายแห่งที่ตั้งอยู่รอบๆ จัตุรัส และชมผู้คนเดินผ่านไปมา

มหาวิทยาลัยซาลามังกาเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อก้องโลกที่ประกอบด้วยงานชิ้นเอกด้านสถาปัตยกรรมที่ใช้เป็นหอพักและอาคารคณะ วิทยาลัยที่ก่อตั้งใน ค.ศ. 1218 แห่งนี้ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในสเปนและมีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป เดินไปในบริเวณลานโล่งที่น่าอยู่และห้องโถงต่างๆ ของอาคารประวัติศาสตร์ เพื่อสัมผัสถึงเกียรติภูมิที่เกี่ยวพันกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้

อาสนวิหารซาลามังกาหลังเก่าเป็นโบสถ์โรมาเนสก์ที่สวยสดงดงามที่สร้างอุทิศแด่ซานตามาเรียเดลาเซเด ซึ่งก่อสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 และ 13 โดยตั้งอยู่ข้างๆ อาสนวิหารหลังใหม่ เดินเที่ยวชมภายในด้วยตัวเอง โดยเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงในการสำรวจคูหาสวดมนตร์และผลงานศาสนศิลป์หลายชิ้นของโบสถ์หลังเก่า

มหาวิทยาลัยสันตะปาปาซาลามังกาก่อตั้งขึ้นโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ในศตวรรษที่ 20 โดยมีอาคารประวัติศาสตร์ที่สวยงามหลายหลังที่รองรับนักศึกษา 6,500 คนที่ร่วมวิทยาลัยแห่งนี้ ตะลึงลานไปกับสิ่งปลูกสร้างและลานที่ปูด้วยหินสมัยศตวรรษที่ 17 ที่สง่างามและน่าประทับใจ ซึ่งทำให้เป็นวิทยาเขตที่โดดเด่น

ด้วยโบสถ์ที่อลังการ หน้าอาคารที่หรูหรา และระเบียงโบสถ์สองชั้นที่โออ่า ซานเอสเตบานคอนแวนต์จึงเป็นงานสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดชิ้นหนึ่งของซาลามังกา อาคารทางศาสนาแห่งนี้เป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการศึกษาและเทววิทยาของคณะโดมินิกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และยังคงเป็นที่ตั้งของคณะนักบวชอารามิกอีกด้วย

อาสนวิหารซาลามังกาหลังใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง โดยเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมานานสองศตวรรษ โดยงานเริ่มต้นใน ค.ศ. 1513 และเสร็จสิ้นใน ค.ศ. 1733 โดยสร้างขึ้นข้างๆ อาสนวิหารหลังเก่า ซึ่งถือว่าเล็กเกินไปสำหรับประชากรที่กำลังเติบโตของซาลามังกา ชมการออกแบบที่โอ่โถง อันเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างโกธิก เรอเนซองซ์และบาโรก

สะพานโรมันหรือปูเวนเตโรมาโน (Puente Romano) ในภาษาสเปน เป็นสิ่งหนึ่งที่ยังเหลือรอดมาได้จากอดีตของซาลามังกาเมื่อครั้งเป็นที่ตั้งรกรากของชาวโรมัน โดยเป็นสะพานหินแกรนิตที่มีโครงสร้างโค้ง 26 จุดที่ทอดข้ามแม่น้ำตอร์เมส โครงสร้างโค้ง 15 จุดทางด้านตัวเมืองเป็นของเดิมจากโรมัน โดยส่วนที่เหลือมาจากงานบูรณะปฏิสังขรณ์ที่ดำเนินการในศตวรรษที่ 18 โดยเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซาลามังกาที่โดดเด่นจนถูกนำไปใส่ไว้ในตราประจำเมือง

คาซ่าเดลาสกอนชาสเป็นสิ่งปลูกสร้างประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีอายุย้อนกลับได้ถึงปลายศตวรรษที่ 15 อาคารที่ประดับด้วยเปลือกหอยกว่า 300 เปลือกหลังนี้ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นห้องสมุดสาธารณะ ถ่ายภาพการตกแต่งที่น่าสนใจของหน้าอาคาร และชื่นชมลักษณะสถาปัตยกรรมต่างๆ