ทั้งเรือสำราญที่ล่องอยู่ในอ่าวใหญ่และบังกาโลเชิงเขาที่ปลูกเฟื่องฟ้าไว้รอบบ้าน ทำให้ Sausalito มีรูปลักษณ์และบรรยากาศเหมือนกับเฟรนช์ริเวียราไม่มีผิด และความรู้สึกนี้ยิ่งมากขึ้นไปอีกเพราะที่นี่มีอากาศอบอุ่นสบายตลอดปี
วิธีเดินทางที่ดีที่สุดคือนั่งเรือเฟอรี่เป็นเวลา 30 นาทีจากซานฟรานซิสโก เฟอรี่ออกจากท่าเรือ 41 ที่ Fisherman's Wharf และจาก San Francisco Ferry Building ที่อยู่ด้านใต้ของ Embarcadero ถ้านั่งเรือจาก Fisherman’s Wharf จะได้เห็นวิวสวยๆ ของเกาะอัลคาทราซและสะพานโกลเด้นเกตจากระยะประชิดด้วย อย่าลืมเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตกันลมมาด้วย เพราะจะมีลมเย็นจากทะเลแม้ในวันที่อากาศอบอุ่น
เมื่อเข้าใกล้ Sausalito มากขึ้นคุณจะได้เห็นรายละเอียดของบ้านเรือนริมหน้าผาและกระท่อมสมัยต้นศตวรรษที่ 20 ที่น่ารัก ชื่นชมบรรยากาศและทำเลของเมืองที่ขนาบข้างด้วยป่าและทุ่งหญ้าของ Golden Gate National Recreation Area
เมื่อลงจากเรือแล้ว คุณสามารถเดินเล่นตามเส้นทางเดินริมน้ำที่มีภัตตาคารอยู่เรียงรายตามท่าเรือที่สวยงาม ขอแนะนำให้เดินไปจนถึงพลาซ่ากลางเมือง เดินเลือกซื้อเสื้อผ้าสวยๆ และชมแกลเลอรีงานศิลปะ จิบกาแฟลาเต้ในคาเฟ่หรือร้านบิสโตรกลางแจ้ง
ถึงแม้ Sausalito วันนี้จะมีความหรูหราให้เห็นชัดเจน แต่ก็ยังคงมีความเป็นโบฮีเมียนอยู่มาก เมืองนี้ยังคงมีบรรยากาศของเมืองที่เรียกว่าอาณานิคมศิลปินเหมือนสมัยทศวรรษที่ 1950 และ 60 เดินชมผลงานศิลปะเและงานฝีมือของท้องถิ่นที่จำหน่ายในแกลเลอรีหลายแห่งในเมือง
นอกจากนี้ Sausalito ยังมีชื่อเสียงมาจากชุมชนที่อาศัยอยู่ในเรือบ้าน ที่นี่เองคือที่มาของเพลงฮิต (Sittin’ On) The Dock of the Bay ของ Otis Redding ซึ่งเขาได้ไอเดียมาขณะที่พักในเรือบ้านนั่นเอง ปัจจุบันมีเรือบ้านอยู่นับร้อยๆ หลัง มีทั้งที่แปลกตาและเก่าไปจนถึงเรือบ้านหรูหราราคาแพง