ช่วงยุคตื่นทองของแคลิฟอเนียในกลางศตวรรษที่ 18 ได้พาเอานักผจญภัยมากมายเข้ามาขึ้นฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้ จากนั้นทายาทของคนเหล่านี้ก็ได้สร้างเมืองต่างๆ และวางรากฐาน ณ พื้นที่ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติที่นี่
แวะ Sacramento เพื่อชมศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมืองหลวงของรัฐ พิพิธภัณฑ์ California State Railroad จะบอกเล่าเรื่องราวที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟที่ก่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ของแคลิฟอร์เนียนี้
ถ้าได้ไปที่เทือกเขา Sierra Nevada แล้วละก็ อย่าลืมแวะที่ อุทยาน Sequoia National Forest ชมต้น Redwood ยักษ์ที่สูงถึง 91 เมตร และมีเส้นรอบวงลำต้นที่มากกว่า 10 เมตร อายุมากกว่าร้อยหรือพันปี เพลิดเพลินไปกับความงามของเสาหินแกรไนต์ ถ้ำหินปูน และลำธารที่มีน้ำไหลเชี่ยว
ทิวเขาที่ทอดยาวทำให้ที่นี่เหมาะเป็นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งอันหลากหลาย แวะสะเลสาบ Lake Tahoe เพื่อเดินป่า พายเรือ ตกปลา และว่ายน้ำสีฟ้าครามในช่วงหน้าร้อน ส่วนหน้าหนาว แวะเล่นสกีที่ Squaw ที่เคยจัดกีฬาโอลิมปิกในปี 1960, Northstar, Alpine Meadow และที่อื่นๆ ที่มีลานสกีสุดเจ๋งพร้อมวิวทะเลสาบอันงดงาม ชมหน้าผาหินแกรไนต์และน้ำตกอันตระการตาที่อุทยานแห่งชาติ Yosemite
ทัวร์ชิมไวน์ใน Napa หรือ Sonoma ก็ได้ แวะที่พื้นที่ทำการเกษตรที่ Central Valley เพื่อชิมสตรอว์เบอร์รี มะกอก กระเทียมและผลิตผลพื้นเมืองอื่นๆ อีกมากมาย
และคุณอาจจะทิ้งหัวใจเอาไว้ที่ San Francisco เหมือน Tony Bonnett ก็ได้ วิวทิวทัศน์ของสะพาน Golden Gate นั้นสวยงามยากจะลืมเลือน แวะเที่ยวที่ไชน่าทาวน์ นั่งรถเข็น ปีนเนินเขาในเมือง นั่งเรือไปที่เรือนจำเก่า Alcatraz และสนุกสนานไปกับแสงสียามค่ำคืน
เดินทางต่อไปทางใต้ที่เมือง Los Angeles เพื่อชื่นชมชายหาดอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก ดูแมวน้ำ นักโต้คลื่น และนักสเก็ต ไปย่าน Hollywood เพื่อชมลายมือเหล่านักแสดงชื่อดังที่ฝังอยู่บนทางเดิน และเที่ยวสวนสนุก Universal Studios แวะ Disneyland® ต้นตำรับในเมือง Anaheim, La Brea Tarpits และ พิพิธภัณฑ์ J. Paul Getty
ลงใต้ไปอีกหน่อย คุณจะพบกับชายหาดแคลิฟอร์เนียยอีกมากมายที่ San Diego พร้อมทั้ง พิพิธภัณฑ์ USS Midway ที่เคยเป็นเครื่องบินบรรทุกมาก่อน แวะ Palms Springs เพื่อเที่ยวชมทะเลทรายอันร้อนระอุ และสนามกอล์ฟระดับโลก หรือจะข้ามพรมแดนไปยัง Tijuana เพื่อพักผ่อนในเม็กซิโกก็ยังได้