ครั้งหนึ่งอุทยานราม บากห์เคยเป็นอุทยานหลวงอันใหญ่โตริมแม่น้ำยมุนา และในปัจจุบันนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งรูปแบบอันสง่างามหลายประการ ตลอดจนพืชพรรณและดอกไม้ที่สวยสดงดงาม ที่นี่คือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสีเขียวขจี ให้คุณหลบหนีจากความวุ่นวายในเมือง เดินเล่นอย่างสบายใจไปตามทางเดินและพักผ่อนใต้ร่มเงาศาลาร่วมกับชาวบ้านคนอื่นๆ
อุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยจักรพรรดิบาบูร์ ผู้ทรงสถาปนาราชวงศ์โมกุลแห่งอินเดีย เพื่อสร้างความเพลิดเพลินใจแก่พระราชอาคันตุกะ และใช้เป็นสถานที่หลบอากาศร้อน ฝุ่น และลมร้อนของเมืองอัคระ ซึ่งองค์จักรพรรดิทรงอดทนแทบไม่ได้ กระทั่งในปัจจุบัน อุทยานแห่งนี้ก็ยังเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านนิยมหนีเข้ามาหลบร้อนจากอากาศยามบ่ายแสนอบอ้าว ลองดูไปรอบๆ คุณจะเห็นชาวบ้านนั่งพักผ่อนตามศาลาซึ่งให้ร่มเงาจากอากาศร้อน
เดินเล่นไปตามทางเดินหินทรายแดงซึ่งทอดยาวตัดผ่านจุดศูนย์กลางของสวน และลองสังเกตดูว่าสวนแห่งนี้ออกแบบการใช้น้ำอย่างไร อุทยานแต่ละส่วนถูกตัดไขว้ไปมาด้วยทางน้ำที่มีลักษณะคล้ายคลองซึ่งสูบน้ำจากแม่น้ำยมุนาที่อยู่ใกล้ๆ นอกจากนี้ลองสังเกตการใช้น้ำแบบอื่นๆ ทั่วพื้นสวน รวมถึงน้ำพุในหลายๆ จุดของอุทยาน
สังเกตแบบแปลนรูปสี่เหลี่ยมของสวนในสไตล์ชาร์บากห์ (Charbagh) ซึ่งเป็นการออกแบบสวนอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเปอร์เซีย แบบแปลนสวนประเภทนี้เป็นที่นิยมในอินเดียสมัยนั้น สวนของทัชมาฮาลก็ใช้แบบแปลนนี้เช่นกัน
ลองเดินไปที่มุมสวนด้านตะวันออกเฉียงเหนือและคุณจะเห็นซาก "ฮัมมามใต้ดิน" (subterranean hammam) หรือที่อาบน้ำ จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดพักร้อนของผู้คน ปัจจุบันที่อาบน้ำแห่งนี้ปิดลงแล้ว และประชาชนไม่สามารถเข้าไปได้
เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสวนแห่งนี้คือฤดูหนาวซึ่งอากาศกำลังเบาสบาย สวนเปิดให้เข้าชมตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก ชาวต่างชาติต้องเสียค่าเข้าชม ส่วนเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าฟรี เมื่อมาเที่ยวชมครั้งนี้แล้ว คุณอาจแวะชมสุสานชินี กา เราซาด้วย ซึ่งเดินจากสวนไปเพียง 10 นาที