เมืองนาริตะอยู่ห่างจากโตเกียวออกมา 78 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของสนามบินนาริตะ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะให้นาริตะเป็นจุดหมายปลายทางหรือจุดแวะพักสั้นๆ เมืองแห่งนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวและอาคารมรดกเก่าแก่หลายแห่งรอให้สำรวจชม
เมืองนาริตะมีมนต์ขลังตามแบบฉบับแห่งโลกสมัยเก่า มุ่งไปตามถนนหนทางลดเลี้ยวซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านค้าอายุยาวนาน เมืองนาริตะมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ซึ่งแตกต่างสิ้นเชิงกับจังหวะก้าวอันโลดแล่นของโตเกียว สัมผัสความสุขสงบที่สวนสาธารณะนาริตะซัน ออกเดินหย่อนใจไปท่ามกลางเจดีย์และบ่อปลาคาร์ฟภายในสวน ต้นซากุระและดอกใบเขียวชอุ่มทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามตลอดทั้งปี
วัดนาริตะซัน ชินโชจิ ตั้งเด่นอยู่ ณ ใจกลางเมือง เป็นวัดพุทธที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้าแห่งอัคคี ฟุโดเมียวโอ สำรวจไปตามอาคารสีสันสดใสที่ประกอบกันขึ้นเป็นวัดขนาดใหญ่ ส่วนมากนับอายุได้ตั้งแต่ปี 940
เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค นาริตะจึงเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์การบิน ศึกษาประวัติศาสตร์การบินไปกับนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟของพิพิธภัณฑ์ หากต้องการประสบการณ์พิพิธภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำแบบใคร ให้ลองไปที่โบโซโนะมุระ พิพิธภัณฑ์แห่งวิถีชีวิตนี้จะพาคุณสำรวจแง่มุมต่างๆ ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ท่องไปบนถนนสายประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นใหม่ หรือเดินเข้าชมบ้านของซามูไร พื้นที่นี้ยังเป็นทำเลยอดนิยมสำหรับกองถ่ายภาพยนตร์ย้อนยุคอีกด้วย
ศูนย์ไม้ดอกและต้นไม้ประจำจังหวัดชิบะเป็นสวนพฤกษศาสตร์อันงดงามใจกลางเมืองนาริตะ คุณสามารถใช้เวลานานนับชั่วโมงเพื่อเที่ยวชมภายในสวนแห่งนี้ เพราะมีพืชพรรณและดอกไม้นานาชนิดกว่า 55,000 ต้น ที่ศูนย์ยังมีการบรรยายเกี่ยวกับการปลูกพืชสวน และพืชจำนวนมากของที่นี่มีวางจำหน่าย รวมทั้งบอนไซญี่ปุ่นดั้งเดิมด้วย
เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์การเพาะพันธุ์ม้าของประเทศในทุ่งปศุสัตว์แห่งจักรพรรดิญี่ปุ่นที่โถงอนุสรณ์ไร่โกเรียว ซึ่งอยู่ภายในอุทยานสนุสรณ์ซันริสึกะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีต้นเกาลัดเรียงแถวงามสง่า
วิธีสะดวกที่สุดในการเดินทางเข้าสู่นาริตะคือเครื่องบิน สนามบินอยู่ห่างจากเมือง 20 นาทีโดยทางรถไฟ รถไฟความเร็วสูงหลายสายเชื่อมต่อกับโตเกียว คุณจึงเดินทางไปสู่เมืองหลวงของญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกภายในไม่ถึง 2 ชั่วโมง