เดินชมวัดวาอารามและพระราชวังสวยๆ ที่อยู่ภายในบริเวณกำแพงของ Imperial City ก็ได้ ค้นพบประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการทำลายล้างภายในป้อมปราการชื่อดังแห่งนี้และตะลึงไปกับสถาปัตยกรรมอันงดงามที่รอดพ้นจากความเสียหายที่เกิดจากสงครามภายในประเทศ
การก่อสร้างทำเนียบรัฐบาลของเมืองเว้นี้เกิดขึ้นในปี 1804 ปัจจุบัน แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้ใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม เพราะว่าคงความเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเวียดนามที่สำคัญมาก
เดินเข้ามาภายในโดยผ่านประตู Ngo Mon อันสวยงามน่าทึ่ง ออกแบบเพื่อขจัดความกลัวภายในหัวใจของผู้ทรงเกียรติที่เดินทางเข้ามาเยี่ยม ประตูนี้ยังมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของเวียดนามอีกด้วย กล่าวคือ จักรพรรดิ Bao Dai ได้ทำการสละราชสมบัติที่นี่ในปี 1945 ทำให้สิ้นสุดราชวงศ์เหงียนลงในที่สุด
เดินต่อมายังบ่อบัวสวยๆ ที่อยู่บริเวณพระราชวัง Thai Hoa Palace เพื่อชื่นชมความงามของหลังคาไม้อันวิจิตรที่มีเสาหินอ่อนสีแดงจำนวน 80 เสาค้ำอยู่ส่วนด้านหลังของพระราชวังนั้น มีบัลลังก์ของจักรพรรดิตั้งบริเวณแท่นยกสูง หยุดพักเพื่อฟังข้อมูลการนำเสนอที่มีทั้งภาพและเสียงเกี่ยวกับภาพรวมของป้อมปราการตั้งแต่การก่อตั้งจนถึงตอนที่ถูกทำลายลงบางส่วนจากสงครามฝรั่งเศสและอเมริกัน
จากนั้น ไปชมกันต่อที่ Halls of the Mandarins ที่อยู่ด้านหลังพระราชวัง ชื่นชมความงดงามขององค์พระพุทธรูปสีทองอร่าม และจุดนี้คุณสามารถแต่งตัวเป็นเชื้อพระวงศ์เวียดนามและถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกได้
ทางด้านซ้ายจะมองเห็นวัดวาอารามที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายใน Imperial Cityวัด Thế Mieuนั้นภายนอกเป็นสีแดงเกือบทั้งหมด และยังมีศาลประจำจักรพรรดิที่เคยปกครองแต่ละองค์ด้วย ลองสังเกตโต๊ะขอบทอง มีการประดับด้วยรูปภาพของเหล่าจักรพรรดิด้วย
จากนั้นตรงไปที่หอคอยธงมีระเบียง 3 จุดบนผนังมองเห็นวิวแม่น้ำได้อย่างชัดเจน เดินเล่นไปเรื่อยๆ ตามกำแพงดิน จะพบกับปืนใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ 9 ลำ แต่ละลำมีน้ำหนักประมาณ 11 ตัน ทั้งหมดมีขึ้นเพื่อสื่อถึงฤดูกาลทั้ง 4 และธาตุทั้ง 5
คุณจะใช้เวลาหลายๆ ชั่วโมงเพื่อเดินชม Imperial City ให้ทั่วก็ได้ และถ้าหากหิวขึ้นมาระหว่างเดินชมก็ลองหยุดแวะแผงขายอาหารเพื่อลองชิมขนมท้องถิ่นรสชาติอร่อยอย่าบอกใคร
Imperial City ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเว้ และเปิดให้เข้าชมทุกวัน มีค่าเข้าชม