ไวกีกิเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดนักเล่นเซิร์ฟได้อย่างดี ก่อนที่วง Beach Boys จะร้องเพลงเกี่ยวกับที่นี่จนโด่งดังในช่วงทศวรรษ 1960 เสียอีก ไวกีกิยังมีกิจกรรมสนุกๆ สำหรับครอบครัว สีสันยามค่ำคืนและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ได้สัมผัสอีกด้วย หาดไวกีกิเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นผจญภัยในไวกีกิ ที่นี่มักจะพลุกพล่านไปด้วยผู้คนโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่มีคลื่นสูง และยังเป็นหาดที่คนมักจะคิดถึงเป็นอันดับแรกเมื่อนึกถึงฮาวาย
ลองเช่ากระดานพร้อมไม้พายแล้วออกไปท้าทายคลื่นสักหน่อย รู้ตัวอีกทีคุณก็อยู่ท่ามกลางเหล่ามือโปรนักโต้คลื่นเสียแล้ว ที่นี่ยังมีโรงเรียนสอนโต้คลื่นดีๆ สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การโต้คลื่นหลากหลายระดับ ลองจองคลาสและเข้าเรียนสักนิดก็ได้ นอกเหนือจากการโต้คลื่น ยังมีกีฬาทางน้ำอื่นๆ ให้ลองเล่น เช่น การดำน้ำดูปะการัง การกระโดดร่มแบบพาราเซลหรือดำน้ำลึก
เดินเล่นต่อเนื่องไปทางใต้ไปยังหาด Kuhio ที่นี่มีหาดทรายสีทองทอดตัวยาว มีกำแพงชายฝั่งกั้นไว้และมีท่าเรือ Kapahulu ตั้งอยู่ ท่าเรือนี้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ดีมาก
ส่วนหาด Queens Surf นั้นตั้งอยู่ฝั่งที่เป็นพื้นที่หินเถ้าภูเขาไฟของไวกีกิ มีคนน้อยกว่าแต่มีพื้นที่สีเขียวมากกว่าจึงเหมาะกับการนั่งปิกนิกหรือชมทะเล เมื่อมาที่นี่แล้ว แนะนำให้ไปที่อนุสาวรีย์ Diamond Head State Monument ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟที่มีประกายแร่แคลไซต์ ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญของฮาวาย เส้นทางเดินมาที่นี่จะพาคุณผ่านอุโมงค์ความยาว 69 เมตร ภายในมีไฟเป็นระยะเพื่อนำทางไปยังหลุมหลบภัยของทหารและประภาคารขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับการเดินเรือ
ไปกันต่อที่คาลาคาอัว อเวนิว บริเวณด้านหลังของหาดไวกีกิ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณตัวเมือง ที่นี่มีร้านค้าแบรนด์ดังให้คุณได้เดินชมเพลินๆ รวมถึงโรงแรมหรูประจำไวกีกิ เช่น โรงแรม Royal Hawaiian และโรงแรม Moana Surfrider ระหว่างทางจะพบนักแสดงริมถนนมาสร้างสีสัน มีบาร์ค็อกเทลที่เปิดถึงเช้าด้วย
ส่วนผู้ที่เดินทางมาเป็นครอบครัว ขอแนะนำให้ไปที่สวนสัตว์โฮโนลูลูและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไวกีกิซึ่งเป็นที่รวบรวมสัตว์น้ำและพืชน้ำมากกว่า 500 สายพันธุ์ และถ้าอยากจะใกล้ชิดกับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ควรจองโปรแกรมทัวร์ไปกับเรือดำน้ำที่จะพาคุณดำดิ่งลงไปยังก้นทะเลแปซิฟิกเพื่อชมซากเรือข้างล่างและสิ่งมีชีวิตสุดมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล