เวียดนามเป็นประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ระบบคมนาคมทันสมัย และมีนักท่องเที่ยวหลงใหลมากมาย ประเทศอันทรงพลังแห่งนี้ประกอบไปด้วยเมืองที่ทันสมัย อาคารเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ และทัศนียภาพที่งดงาม

เริ่มต้นการเดินทางจากฮานอย เมืองหลวงซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศและเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมมากว่า 1,000 ปี เจาะลึกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่าที่ พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาเวียดนาม และดูมุมมองของคนท้องถิ่นเกี่ยวกับสงครามเวียดนามที่พิพิธภัณฑ์ B52 Victory ชมวิหารวรรณกรรมในสมัยศตวรรษที่ 10 ที่อุทิศให้ขงจื๊อ ซึ่งเป็นนักปรัชญาสังคมที่มีชื่อเสียงของจีน ร่วมรำไทเก๊กยามเช้ากับคนท้องถิ่นใกล้ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม

ทางตอนใต้ของเวียดนามคือโฮจิมินห์ซิตี้ ศูนย์กลางธุรกิจและการเงิน ที่มีทั้งตึกสูง วัดโบราณ และอาคารเก่าสไตล์โคโลเนียล ร้านขายของติดกับบาร์ทันสมัยและร้านเสื้อผ้าไฮโซ

ชมวิวมุมสูงจากไซ่ง่อน สกายเดคบนแพลตฟอร์มชั้นที่ 68 ของไบเทกซ์โกไฟแนนเชียลทาวเวอร์กลับลงสู่พื้นดิน เดินเที่ยวต่อที่วัดในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ Giac Lam หากสนใจกิจกรรมทางวัฒนธรรม ควรชมละครเพลงที่ไซ่ง่อน โอเปรา เฮาส์

เดินทางจากไซ่ง่อนไปอีกประมาณ 40 กิโลเมตรจะพบกับอุโมงค์กู๋จี ซึ่งเป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ทหารใช้ในระหว่างสงครามเวียดนาม

และยังได้ชมความงามในชนบทอีกด้วย ล่องเรือไปตามลำน้ำ Vinh Long แคบๆ ในดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เดินไปตามเนินเขาและหุบเขาในซาปา ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือเดินขึ้นเขาไปตามเส้นทางที่ราบสูงตอนกลาง

ชายฝั่งทะเลของเวียดนามมีชายหาดที่งดงามมากมาย พักผ่อนใต้ต้นปาล์มบนหาดญาจาง และสนอร์เกิลที่รีสอร์ตริมทะเลหวุงเต่า

เดินทางมายังเวียดนามได้โดยบินมาลงที่สนามบินนานาชาติฮานอย โฮจิมินห์ซิตี้ หรือดานัง นั่งสามล้อถีบรอบเมืองเพื่อสุนทรียภาพในการเดินทาง หรือจะเช่ารถหรือจักรยานก็ได้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่นิยมขึ้นรถเมล์ท้องถิ่นเนื่องจากคนแน่นและไม่มีแอร์

เวียดนามเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม ทัศนียภาพ และประวัติศาสตร์