เกี่ยวกับอิตาลี
อิตาลีตั้งอยู่ในคาบสมุทรอิตาลีทางตอนใต้ของยุโรป มีชื่อทางการว่า “สาธารณรัฐอิตาลี” เมืองหลวงคือ “โรม” อิตาลีเป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณตั้งแต่ยุคหินเก่า ยุคจักรวรรดิโรมันและยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยา (Renaissance) เป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด ในปี พ.ศ. 2560 อิตาลีเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากเป็นอันดับ 5 ของโลก (จัดอันดับโดยองค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติหรือ United Nations World Tourism Organization - UNWTO) และเป็นประเทศที่มีมรดกโลก (World Heritage site) มากที่สุดในโลก การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังอิตาลีทำได้โดยเครื่องบิน มีสายการบินให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และโรม ระยะทางรวม 8,823 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 11.5 ชั่วโมง
ห้ามพลาด
สภาพอากาศโดยรวมของอิตาลีค่อนข้างอบอุ่นและเย็นสบาย มีฤดูกาล 4 ฤดูคือ ฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่เดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม ฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม ฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่เดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน และฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์ ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวในอิตาลี ฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด ในฤดูหนาวสกีรีสอร์ททางตอนเหนือของประเทศจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดคือ เวนิสคาร์นิวัล (Venice Carnival) เทศกาลหน้ากากเก่าแก่ที่จัดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1268 ซึ่งจัดทุกปีในช่วง 40 วันก่อนอีสเตอร์
อิตาลีมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมากกว่า 40 แห่ง เช่น โคลอสเซียม (Colusseum) วิหารแพนธีอัน (Pantheon) และมหาวิหารนักบุญเปโตร (St Peter's Basilica) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดได้แก่ พิพิธภัณฑ์อารยธรรมโรมัน (Roman Civilization Museum) จัดแสดงแบบจำลองของกรุงโรมในสมัยโบราณ หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) หอระฆังทรงกระบอกสูง 8 ชั้นซึ่งใช้เวลาสร้างกว่า 200 ปี สันนิษฐานว่าสาเหตุของการเอนเกิดจากความอ่อนตัวของพื้นดิน ซึ่งไม่เอื้ออำนวยต่อโครงสร้างของหอระฆัง ฟลอเรนซ์ (Florence) ศูนย์กลางและแหล่งกำเนิดของยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยา (Renaissance) มหาวิหารแห่งมิลาน (Cathedral of Milan) วิหารสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก แกรนด์คาแนลหรือคลองเวนิส (Grand Canal) สัญลักษณ์ของเมืองเวนิส และภูเขาไฟวิสุเวียส (Mount Vesuvius) ในเนเปิลส์ (Naples) การปะทุของภูเขาไฟแห่งนี้ในปี ค.ศ. 79 ทำให้เมืองปอมเปอี (Pompeii) ถูกฝังภายใต้เถ้าถ่านและลาวา
ร้านอาหารและบาร์
อาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมเป็นอาหารหลักในอิตาลี อาหารเช้าได้แก่ กาแฟคาปูชิโน่ และคอร์เนตโต (cornetto) ซึ่งเป็นขนมปังลักษณะคล้ายครัวซองต์ ร้านอาหารอิตาเลียนจะเสิร์ฟอาหารตามลำดับ เริ่มจากแอนทิพาสโต้ (antipasto) อาหารเรียกน้ำย่อย ตามด้วยพรีโม (primo) อาหารจานแรก มักจะเป็นข้าวหรือพาสต้า จากนั้นเป็นเซคกอนโด (secondo) อาหารจานที่สอง มักจะเป็นปลาหรือเนื้อ และสุดท้ายเป็นของหวาน สำหรับแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนจะมีอยู่แทบทุกเมือง ปกติราคาเครื่องดื่มของบาร์ที่อยู่ภายในตัวเมืองจะมีราคาสูงกว่าบาร์ที่อยู่นอกเมือง
กิจกรรม
อิตาลีมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการปั่นจักรยานในอุทยานแห่งชาติในทัสคานี (Tuscany) การล่องเรือในเกาะซิซิลี (Sicily) หรือซาร์ดิเนีย (Sardinia) การตกปลาในทะเลสาบโคโม (Lake Como) และในลอมบาร์ดี (Lombardy) การล่องแก่งที่น้ำตกมาร์มอเร (Marmore's Falls) ในอุมเบรีย (Umbria) และการปีนเขาที่ชิงเควเทเร (Cinque Terre) ในลิกูเรีย (Liguria)
ช้อปปิ้ง
มิลาน (Milan) และฟลอเรนซ์ (Florence) เป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้งที่สำคัญของอิตาลี ในมิลานมีแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงคือ ย่านควาดริลาเทโร โดโร (Quadrilatero d’Oro) แหล่งเสื้อผ้าราคาประหยัด และตลาดนัดฟิเอรา ดิ ซินิกาเกลีย (Fiera di Sinigaglia) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสินค้าหัตถกรรมที่มีคุณภาพ ในฟลอเรนซ์มีแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงคือ ย่านทอร์นาบุโอนิ (Tornabuoni) ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องหนังและเครื่องประดับทำจากทอง และตลาดเมอร์กาโต เซนทราเล (Mercato Centrale) จำหน่ายสินค้าประเภทของเก่าและของโบราณ