เมืองริมทะเลสุดหรูนี้มีจุดหักมุมเรื่องความเป็นยุโรป และได้รับสมญานามว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของประเทศจีน เพราะมีสถาปัตยกรรมอันงดงามและมรดกด้านวัฒนธรรมแห่งเยอรมัน พัฒนาการความทันสมัยนี้เองเป็นตัวเปลี่ยนชิงเต่าให้เแปลกใหม่ ไม่เว้นแม้แต่เส้นขอบฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม ชิงเต่าก็ยังคงความเป็นเมืองท่าอยู่ การเดินเรือทางทะเลเป็นหัวใจสำคัญ และมีชายหาดที่ทุกคนหลงรัก แถมอาหารทะเลก็มีให้รับประทานหลากหลาย
ในปี 1898 ประเทศเยอรมนีได้รับแผ่นดินนี้ตามสัญญาเช่า 99 ปี พื้นที่ดังกล่าวอยู่รอบๆ อ่าว Kiautschou . พบหลักฐานของอิทธิพลเยอรมันได้จากตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหินกรวด หลังคาบ้านเรือนสีแดงและรูปแบบของชิงเต่าที่มีคล้ายคลึงกับชนเผ่าเยอรมันโบราณเผ่าหนึ่ง ร่วมสัมผัสเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ภูเขาและมีโบสถ์สไตล์ลูเธอร์และคาทอลิกตามแบบฉบับของเยอรมัน
ปัจจุบัน ความเป็นเยอรมันยังคงพบเห็นได้ในรสชาติของเบียร์ชิงเต่า เมืองนี้เองเป็นแหล่งผลิตเบียร์ชิงเต่าที่เป็นเบียร์ยอดนิยมของจีนด้วย มุ่งหน้าไปยังโรงเบียร์ Old Tsingtao เพื่อชมสถานที่หมักเบียร์และพิพิธภัณฑ์ เดินชมสวนเบียร์ได้ที่ Beer Street และอิ่มอร่อยไปกับไส้กรอกและเบียร์ขึ้นชื่อสักเหยือกท่ามกลางแสงอาทิตย์อุ่นๆ คนรักเบียร์ควรจะมาเที่ยวในช่วงที่มีการจัดเทศกาลเบียร์นานาชาติประจำปี ในช่วงเดือนสิงหาคม
ส่วนชายหาดที่มีชื่อเสียงของชิงเต่าก็ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการอาบแดดจากทั่วโลกให้มาที่นี่ด้วย ลองเดินตามฝูงชนไปที่หาด Number One Bathing Beach หรือจะไปไกลอีกนิดที่หาดNumber Two Bathing Beach ที่สวยกว่า มีถ้ำเล็กๆ ที่ว่ากันว่าเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสุดโปรดของท่านประธานเหมาด้วย ใกล้ๆ กันนี้ยังมีชายหาด Shilaoren มีที่มาของชื่อจากหินที่โผล่ขึ้นมาและมีรูปร่างคล้ายกับชายแก่ แม้ชายหาดนี้จะได้รับการพัฒนามามากแต่ก็ยังถือว่าสะอาดกว่าชายหาดอื่นๆ ในเมือง
ที่ Botanical Gardens ของเมืองถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีอีกแห่งหนึ่งสำหรับครอบครัว และ Qingdao Underwater World ก็เช่นกัน นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการปีนเขาจะต้องชอบ Mushroom Observatories ซึ่งเป็นโครงสร้างจำลองภูเขาขนาดเล็ก เมื่อขึ้นไปข้างบนแล้วจะสามารถมองเห็นวิวทั่วทั้งบริเวณได้
ชิงเต่าอยู่ห่างจากปักกิ่งไปทางตอนใต้ นั่งรถไฟด่วนใช้เวลา 6 ชั่วโมง ส่วนเที่ยวบินก็มีให้บริการเชื่อมต่อเมืองใหญ่ในจีนเมืองอื่นๆ ด้วย สามารถออกสำรวจเมืองนี้ได้ง่ายโดยรถประจำทางและแท็กซี่ ควรมาเที่ยวชิงเต่าในช่วงปลายฤดูร้อนหรือช่วงฤดูใบไม้ผลิเพราะอากาศดี และคนไม่ค่อยมาก ที่นี่มีสายลมพัดเย็นสบาย มั่นใจได้ว่าคุณภาพอากาศเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และอากาศก็ดีตลอดทั้งปี