ฮาโกดาเตะเป็นเมืองใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด เกาะเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น เยี่ยมชมเมืองติดทะเลแห่งนี้ ชมทิวทัศน์อันงดงามน่าทึ่ง ชิมอาหารทะเลสด ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกหลากหลาย ฮาโกดาเตะเป็นเมืองท่าแห่งแรกๆ ของญี่ปุ่นที่เปิดรับการค้าขายแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศ หลังจากนโยบายปิดประเทศในสมัย เอโดะตั้งแต่ปี 1615 จนถึง 1868 ด้วยเหตุนี้ เกาะแห่งนี้จึงมีร่องรอยอิทธิพลจากต่างชาติปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนทั้งในสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม
เดินเที่ยวชมโมโตมาชิ ย่านที่พักอาศัยของชาวต่างชาติในฮาโกดาเตะเมื่อสมัยก่อน คุณจะพบเศษเสี้ยวความเป็นยุโรปได้จากโบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียและสถานกงสุลเก่าอังกฤษ ป้อมโงเรียวกาคุ ปราการใหญ่แบบยุโรปรูปทรงดาว เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดของฮาโกดาเตะ ที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อตอนปลายสมัยเอโดะเพื่อป้องกันเมืองจากการคุกคามของลัทธิจักรวรรดินิยมยุโรป จวบจนปี 1910 ป้อมจึงหมดความสำคัญทางทหาร และปรับให้เป็นอุทยานสาธารณะ
ซากุระกว่าหนึ่งพันต้นได้ปลูกเรียงตามแนวคูล้อมรอบป้อมโงเรียวกาคุ หากมาเที่ยวในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมก็จะได้ชมซากุระบาน สำนักงานปกครองเก่าตั้งอยู่ที่ใจกลางป้อมปราการ แม้ว่าอาคารสำนักงานหลังเดิมจะถูกทำลายลงไปหลังสิ้นอำนาจ โชกุน แต่ทางเมืองก็สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยความพิถีพิถัน หากต้องการชมวิวมุมสูงของป้อมโกะเรียวคะคุ ให้คุณขึ้นไปยังลานชมวิวของหอคอยโกะเรียวคะคุซึ่งอยู่ติดกัน
เดินทางออกนอกเมืองไปราวครึ่งชั่วโมงสู่อุทยานโอนุมะ อุทยานแห่งชาติแห่งนี้แผ่กว้างล้อมรอบทะเลสาบโอนุมะและทะเลสาบโคนุมะ เดินหรือปั่นจักรยานไปตามทางเดินเชื่อมที่เป็นระเบียบเรียบร้อยเลาะริมฝั่งทะเลสาบ ล่องเรือออกไปตกปลาหรือชมทิวทัศน์ บนทะเลสาบโอนุมะอันกว้างใหญ่นี้มีเกาะแก่งมากถึง 126 เกาะให้สำรวจ และยังมีภูเขาไฟโคมะงะตะเกะ ซึ่งสงบแล้วตั้งตระหง่านอยู่เป็นฉากหลังอันยิ่งใหญ่ให้กับอุทยาน
ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับสองจากเกาะหลักทั้งสี่ของญี่ปุ่น แต่ก็เป็นเกาะที่มีการพัฒนาน้อยที่สุด ช่วงฤดูหนาวจะหนาวจัดและมีหิมะตก ส่วนฤดูร้อนจะมีแดดออกแต่อากาศอบอุ่น ไม่ว่าจะฤดูกาลใดก็มีนักท่องเที่ยวมุ่งสู่ฮอกไกโดเสมอ เพื่อเล่นสกี เดินเขา และออกแคมป์ คุณสามารถเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติส่วนใหญ่ของเกาะได้ง่ายๆ จากฮาโกดาเตะ