แอชวิลล์ล้อมรอบด้วยเทือกเขา Blue Ridge Mountains และ Great Smoky ของนอร์ธแคโรไลนา เมืองนี้เลื่องลือในเรื่องของบรรยากาศแห่งศิลปะอันคึกคักและกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าสนใจ ตัวเมืองมีป่า Pisgah และ Nantahala ขนาบ 2 ด้าน เดินลุยขึ้นเขา Mount Pisgah เพื่อเพลิดเพลินกับป่าธรรมชาติและทัศนียภาพอันตระการตา ในฤดูใบไม้ร่วง ภูมิประเทศแถบภูเขาจะเต็มไปด้วยใบไม้หลากเฉดสี นักท่องเที่ยวจำนวนมากวางแผนมาเที่ยวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
แอชวิลล์ซึ่งได้สมญานามว่า “ปารีสแห่งตอนใต้” เป็นอาณาจักรแห่งศิลปินอย่างแท้จริง เหล่าผู้มีจิตวิญญาณศิลปินรวมตัวกันเป็นชุมชนที่คึกคัก พวกเขานำเสนอนิทรรศการ คอนเสิร์ต และการแสดงไม่ขาดสาย เมืองนี้มีร้านอาหารและคาเฟ่มากพอที่จะรองรับทุกคน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจริงจัง ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องการทำเบียร์อีกด้วย โดยมีโรงหมักเบียร์คราฟต์ถึงสิบกว่าแห่งในระยะไม่ไกลจากกันในดาวน์ทาวน์
เดินไปตามย่าน River Arts District ของแอชวิลล์แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงได้ชื่อว่า “ซานฟรานซิสโกแห่งตะวันออก” คุณจะพบเห็นการแสดงกลางแจ้งตลอดทุกวัน ริมถนนเต็มไปด้วยศิลปินท้องถิ่นที่นำผลงานตัวเองมาวางขาย หาที่นั่งในคาเฟ่กลางแจ้งริมแม่น้ำ French Broad River แล้วเพลิดเพลินกับการมองดูผู้คน ในวันฝนตก ใช้เวลายามบ่ายที่ Grove Arcade เพื่อเดินดูงานฝีมือในภูมิภาค รับประทานอาหารที่ร้านท้องถิ่น และฟังดนตรีสด
ขับรถออกจากดาวน์ทาวน์ไม่กี่นาทีก็จะถึงคฤหาสน์ Biltmore Estate อันเก่าแก่ คฤหาสน์หลังนี้สร้างโดย George Vanderbilt II ในช่วงรอยต่อศตวรรษที่ 19 และ 20 บ้านหลังนี้มี 250 ห้องและได้ชื่อว่าเป็นบ้านของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บริเวณบ้านมีทัวร์พร้อมไกด์ โรงบ่มไวน์ และที่พักหรูหรา เผื่อเวลาตลอดช่วงบ่ายเพื่อชมบ้านหลังนี้ รวมไปถึงสวนหย่อมและบริเวณบ้าน รับรองว่าคุ้มค่า จองทัวร์ช่วงคริสต์มาสล่วงหน้าเพื่อชมอาคารหลักที่ตกแต่งอย่างงดงาม
นักท่องเที่ยวสามารถบินมาลงที่สนามบิน Asheville Regional Airport ซึ่งมีเที่ยวบินตรงไปยังปลายทางต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ แอชวิลล์อยู่ห่างจากเมืองชาร์ลอตต์ 190 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถยนต์โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 26 หรือ 40 การขับรถไปกลับจากเมืองทางตะวันตกของนอร์ธแคโรไลนานี้ต้องขับไปตามถนน Blue Ridge Parkway ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีทัศนียภาพงดงามที่สุดในสหรัฐฯ