เซนต์ไมเคิลเมาท์เป็นเกาะหินแกรนิตและหินชนวนโดยมีโบสถ์แห่งยุคกลางและปราสาทแห่งศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่บนส่วนยอด พบกับชุดเกราะและเฟอร์นิเจอร์โบราณที่น่าประทับใจของปราสาท ชมทิวทัศน์ของบริเวณอ่าว และผ่อนคลายในสวนสวยที่น่าตื่นตา
จากการขุดค้นทำให้ทราบว่าเกาะแห่งนี้มีผู้อยู่อาศัยมายาวนานกว่า 3,000 ปีแล้ว อารามที่สร้างขึ้นในบริเวณนี้ในช่วงศตวรรษที่ 5 ถูกแทนที่ด้วยสำนักสงฆ์ฆ์เบเนดิกตินในศตวรรษที่ 12 ตลอดช่วงเวลาหลายปี สิ่งก่อสร้างนี้ยังทำหน้าที่เป็นป้อมปราการและเป็นที่พักอาศัยส่วนตัวอีกด้วย ไปสำรวจดูสิ่งก่อสร้างต่างๆ บนเขา นับตั้งแต่ซากปรักหักพังของสำนักสงฆ์แห่งศตวรรษที่ 12 ไปจนถึงสิ่งก่อสร้างที่ปลูกเพิ่มเติมในยุควิกตอเรียซึ่งมีลักษณะทันสมัยมากขึ้น
อย่าพลาดชมห้อง Chevy Chase ที่ใช้เป็นโรงอาหารสำหรับนักบวช ชมลายสลักตกแต่งจากปูนปลาสเตอร์จากศตวรรษที่ 17 ที่ประดับอยู่ตามแนวความยาวของห้องและแสดงเรื่องราวของฉากการล่าที่น่าชม ชมหน้าต่างประดับกระจกสี บางบานมีความเก่าแก่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
สำรวจดูคลังแสงสรรพาวุธและอาวุธที่รวบรวมไว้โดยสมาชิกครอบครัวในระหว่างที่รับราชการทหารและการเดินทาง ซึ่งในปัจจุบัน ถูกจัดเก็บอยู่ในห้องกองทหารรักษาการณ์ นอกเหนือจากปืนคาบศิลาที่หลากหลายแล้ว คุณยังจะได้พบกับชุดเสื้อเกราะซามูไร
เข้าไปชมภายในโบสถ์ไพรเออรีแห่งศตวรรษที่ 12 ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ โบสถ์ที่เงียบสงบแห่งนี้มีหินอาราบาสเตอร์แห่งศตวรรษที่ 15 จากนอตทิงแฮมอยู่
ห้องสมุดซึ่งแต่เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้างในยุคศตวรรษที่ 12 ปัจจุบัน ได้กลายเป็นแหล่งรวบรวมหนังสือมากกว่า 1,300 เล่ม ชมโต๊ะเล่นเกมแห่งศตวรรษที่ 19 ของอิตาลี ที่ครั้งหนึ่งเคยใช้สำหรับการเล่นไพ่และหมากรุก
ขึ้นไปยังส่วนระเบียงเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามข้ามอ่าวออกไป อันได้แก่ เมืองเพนแซนซ์, นิวอิน, Land's End ที่สุดแผ่นดินของอังกฤษ และแหลมลิซาร์ด คุณจะสามารถมองเห็นสวนกึ่งเขตร้อนของสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่บนหน้าผา พืชพันธุ์หลากหลายชนิดจากเม็กซิโก หมู่เกาะคะเนรี และแอฟริกาใต้ล้วนแต่กำลังเติบโตเบ่งบานอยู่ท่ามกลางสภาพภูมิอากาศที่ไม่รุนแรงของภูมิภาคนี้
เกาะเซนต์ไมเคิลเมาท์ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของเมืองมาราไซน์ ในเวลาที่น้ำขึ้น นั่งเรือเฟอร์รีข้ามไปยังเกาะและรอคอยเวลาที่น้ำลงเพื่อที่คุณจะได้สามารถเดินข้ามผ่านทางเดินที่เต็มไปด้วยกรวดหิน
