เข้าไปยืนใน Koules Fortress แล้วมองไปทางท่าเรือ Heraklion ราวกับทหารคุ้มกันที่คอยป้องกันเมืองจากการโจมตีมานานกว่า 500 ปี แวะชมค่ายทหารและคุก รวมถึงชมบริเวณที่มีปืนใหญ่ตั้งประจำการเพื่อยิงจู่โจมเรือฝ่ายศัตรูที่เข้ามาใกล้ อย่าพลาดชมประติมากรรมรูปนูนสิงโตทำจากหินอ่อนของ St. Mark อันน่าประทับใจที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเวนิสบนกำแพงของป้อมปราการทั้งสามแห่ง
บันทึกได้แสดงให้เห็นว่ามีป้อมปราการอยู่ที่ท่าเรือ Heraklion ตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 10 สิ่งก่อสร้างที่เห็นในปัจจุบันนี้สร้างขึ้นโดยชาวเวนิสระหว่างปี 1523 และปี 1540 ก่อนหน้านี้รู้จักกันในนามของ Rocca a Mare หรือ "โขดหินแห่งท้องทะเล" ชื่อป้อมปราการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นมาจากภาษาตุรกี สังเกตกำแพงแข็งแกร่งทรงสี่เหลี่ยมอันน่าประทับใจ จัดว่าเป็นกำแพงที่ทำให้ตัวอาคารดูสะดุดตาที่สุดใน Heraklion หลายคนมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและช่วงชีวิตของเมือง
เดินจากท่าเรือไปชมสันฐานที่ค่อนข้างใหญ่โตของป้อมปราการซึ่งตั้งตระหง่านอย่างเห็นได้ชัดบนเขื่อนกันชายฝั่งทางตะวันตกของท่าเรือ ขณะที่คุณเดินเข้าไปใกล้ ให้มองหาประติมากรรมรูปนูนสิงโตของ St. Mark ที่ทำจากหินอ่อนขนาดใหญ่
เข้าไปในป้อมปราการแล้วเดินสำรวจห้องต่างๆ ในป้อมปราการ 26 ห้อง สังเกตทางลอดซุ้มเตี้ยๆ ที่แยกออกจากห้องต่างๆ ชมบริเวณที่ทหารเคยอาศัยและเยี่ยมชมคลังเก็บอาวุธ บางครั้งห้องเหล่านี้ก็ใช้จัดนิทรรศการศิลปะหรือการแสดงด้วย เพราะฉะนั้นสอบถามดูว่ามีกิจกรรมอะไรจัดขึ้นบ้างระหว่างที่คุณมาเที่ยวชมบ้าง
สำรวจห้องต่างๆ ที่เคยใช้เป็นคุกคุมขังกบฏชาวครีตและศึกษาว่าทำไมบางคนถึงเชื่อว่าป้อมปราการแห่งนี้มีผีสิง ขึ้นไปที่ชั้นบนสุดแล้วมองมหาสมุทรอันกว้างใหญ่เบื้องหน้าคุณผ่านเชิงเทิน จินตนาการว่าตัวเองเป็นทหารเวนิสคอยตรวจตราหาผู้บุกรุกชาวตุรกี
Koules Fortress ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของท่าเรือ Heraklion ที่นี่ปิดให้บริการทุกวันจันทร์ มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมเพียงเล็กน้อย