สะพานเฮเพนนีในเมืองดับลินตอนกลาง เป็นโครงสร้างเหล็กโค้งที่มีอายุตั้งแต่ ค.ศ. 1816 ถึงแม้ว่าจะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสะพานลิฟฟีย์ แต่ชื่อเล่นหมายถึงค่าผ่านที่เรียกเก็บในช่วงต้นๆ โดยที่เป็นสะพานคนเดินแห่งแรกในเมือง จึงอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่เป็นตำนานและโรแมนติก เดินเล่นจูงมือกับคู่รักของคุณไปบนทางเดิน แล้วมองไปยังเส้นขอบฟ้าของดับลิน
สะพานยาว 43 เมตรแห่งนี้ รองรับคนเดินถนนได้มากถึงวันละ 30,000 คน ยืนตรงกลางทางข้ามที่โด่งดังแห่งนี้ แล้วชมทิวทัศน์เมืองของดับลิน อยู่รอพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อชมแม่น้ำสะท้อนสีที่แปรเปลี่ยนของท้องฟ้า แสงไฟจากสะพานที่ขนานกันและอาคารริมแม่น้ำสว่างเรืองรองประดับค่ำคืนอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
ดื่มด่ำกับความรู้สึกติดตรึงใจที่ได้ยืนในใจกลางเมืองดับลิน บนสายน้ำที่แบ่งเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ออกเป็นตอนเหนือและตอนใต้ โปรดทราบว่าทางเมืองได้ว่าจ้างคนเก็บกุญแจ เพื่อถอดกุญแจรักที่นักท่องเที่ยวชอบเอาไปติดที่ราวสะพาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสะพานประวัติศาสตร์แห่งนี้
สำรวจย่านการค้าบนฝั่งใต้ของสะพาน บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟและร้านบูทีค ผ่อนคลายไปกับเบียร์ไอริชพื้นเมืองยี่ห้อกินเนสในผับที่ด้านใดด้านหนึ่งของสะพาน
เรียนรู้ประวัติศาสตร์เบื้องหลังทางข้ามที่โดดเด่นแห่งนี้ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อทดแทนเรือข้ามฟาก โดยตั้งตระหว่านอย่างภาคภูมิใจในฐานะสะพานคนเดินเพียงแห่งเดียวที่ข้ามแม่น้ำสายนี้เป็นเวลา 184 ปี
เดิมมีคนข้ามเพียงวันละ 450 คน โดยจ่ายค่าข้ามครึ่งเพนนีหรือ 1.5 เพนนีอย่างเสียไม่ได้ ชื่นชมการบูรณะใน ค.ศ. 2001 ที่ขจัดป้ายโฆษณาระเกะระกะออกไป แล้วบูรณะโครงสร้างนี้ให้คืนความมีเสน่ห์แบบโบราณและสีขาวนวลดังเดิม
ใช้สะพานนี้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนค่าข้ามที่เคยเรียกเก็บนั้นถูกเรียกเก็บเข้ากรุประวัติศาสตร์ไปแล้ว สะพานแห่งนี้เปิดตลอดเวลา
สะพานเฮเพนนีข้ามแม่น้ำลิฟฟีย์ที่ไหลผ่านใจกลางเมือง โดยตั้งอยู่ระหว่างสะพานมิลเลนเนียมสำหรับคนเดินกับสะพานโอคอนเนลล์ที่มีการเดินรถร่วมกัน ขึ้นรถประจำทางไปลงที่ป้าย ซึ่งมีอยู่หลายแห่งบนฟากใดฟากหนึ่งของแม่น้ำ แลนด์มาร์คในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงโบสถ์พระกิตติคุณจีนแห่งดับลิน (Chinese Gospel Church of Dublin) และโบสถ์ศีลศักดิ์สิทธิ์ (Blessed Sacrament Chapel)