อาสนวิหารดันเบลนเป็นโบสถ์ยุคกลางที่นำการออกแบบในศิลปะโรมาเนสก์มาผสมผสานกับศิลปะโกธิก ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของที่นี่คือหอคอย ซึ่งมีอายุย้อนได้ถึงศตวรรษที่ 12 ส่วนอื่นๆ ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในโบสถ์ในช่วงหลายร้อยปี เพื่อสะท้อนให้เห็นรูปแบบที่เปลี่ยนไป ถ่ายภาพอาสนวิหารอันโอฬารและสุสานที่เชื่อมติดกันจากในระยะไกล
มาที่โบสถ์และสำรวจส่วนหน้าอาคารโกธิกที่แกะสลักอย่างประณีตทางด้านตะวันตก สังเกตว่าส่วนล่างมีลักษณะโรมาเนสก์ ในขณะที่ส่วนบนเป็นแบบโกธิก แหงนมองไปที่หอระฆังหินทรายสีแดงที่ผ่านกาลเวลามาได้เกือบ 1,000 ปีแล้ว และมีความสูงหกชั้น เดิมเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาที่มีอยู่แล้ว ซึ่งอธิบายได้ถึงตำแหน่งผิดปกติที่ผนังทิศใต้ของทางเดินกลางโบสถ์
เข้าไปในโบสถ์ เพื่อชมทางเดินสูงกลางโบสถ์ที่มีเสาและช่องโค้งขนาดใหญ่ขนาบม้านั่งยาว ม้านั่งคณะนักร้องเพลงสวดสมัยศตวรรษที่ 15 เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่ง เนื่องด้วยความหายากและสภาพที่อนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม ชื่นชมงานสะสมเครื่องเรือนสมัยศตวรรษที่ 19 ที่อยู่ทั่วทั้งภายในอาคาร สำรวจหินแกะสลักของขนเผ่าพิกต์จากยุคกลาง
ชมหินแกะสลักในทางเดินทิศใต้ที่บอกตำแหน่งเหตุการณ์สังหารหมู่ ค.ศ. 1996 ซึ่งมือปืนได้สังหารเด็ก 16 คนและครูหนึ่งคนที่โรงเรียนในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นการทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิตที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร และมีบทบาทอย่างใหญ่หลวงในการออกกฎหมายจำกัดการใช้ปืน อย่าลืมแวะไปที่ป้ายจารึกความทรงจำในสวนด้านนอกโบสถ์ เพื่ออ่านข้อความที่เจ็บปวดเข้ากับเหตุการณ์จากนักเขียนที่ได้รับการยกย่อง
เรียนรู้เรื่องราวการแต่งงานที่มีชื่อเสียง ณ สถานที่นี้ เช่น การแต่งงานของแอนดี้ เมอร์เรย์ ดาราเทนนิสของสหราชอาณาจักร โดยทางการแล้ว ที่นี่ไม่ใช่อาสนวิหารอีกต่อไป เนื่องจากไม่มีมุขนายกในศาสนจักรสกอตแลนด์ ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับโบสถ์ ซึ่งไม่มีหลังคามาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 16 มาจนถึง ค.ศ. 1893
เข้าชมอาสนวิหารแห่งนี้ ซึ่งเปิดทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเปิดทุกบ่ายวันอาทิตย์อีกด้วย โบสถ์แห่งนี้รับเงินบริจาค
อาสนวิหารดันเบลนอยู่ในใจกลางเมืองเล็กๆ ใกล้กับสเตอร์ลิงในภาคกลางของสกอตแลนด์ โดยอยู่ทางเหนือของพิพิธภัณฑ์ดันเบลนและดันเบลนนิวกอล์ฟคลับพอดี