กิ่งก้านที่บิดพันกันในพื้นที่ 5 ไร่ ทำให้ต้นมะม่วงหิมพานต์ปีรังจีเป็นสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่งของโลก ต้นไม้ดังกล่าวได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ใน ค.ศ. 1994 สำหรับขนาดอันใหญ่โต ซึ่งเกิดจากกิ่งของต้นไม้ทิ่มลงไปในดินแล้วกลายเป็นราก เข้าไปในวนอุทยานมะม่วงหิมพานต์แห่งนี้ และเรียนรู้เกี่ยวกับความผิดปกติทางพันธุกรรมที่นำมาสู่การเติบโตนี้
ต้นไม้นี้มีเส้นรอบวง 500 เมตร ยาวกว่าต้นมะม่วงหิมพานต์โดยทั่วไปมากกว่า 10 เท่า เรียนรู้ว่าน้ำหนักของกิ่งบังคับให้ต้องโน้มลงต่ำจนงอกราก แล้วจึงพุ่งขึ้นมาอีกครั้งจากพื้นดิน เนื่องด้วยปรากฏการณ์นี้ จึงยากที่แยกแยะลำต้นเดิมจากลำต้นที่เติบโตขึ้นมาภายหลัง
ท้าทายครอบครัวของคุณเพื่อตามล่าหาลำต้นหลัก ซึ่งมีกิ่งก้านจำนวนมากบิดพันในทุกทิศทาง ก้านหนึ่งจากลำต้นหลักดังกล่าวทอดไปตามเส้นทางปกติ และชาวบ้านที่นี่เรียกว่าค่าแรงขั้นต่ำ
ถ่ายภาพเขาวงกตกิ่งไม้ที่ซับซ้อน แล้วหลุดเข้าไปในเขาวงกตป่า ปล่อยให้ลูกหลานของคุณเล่นไปตามกิ่งไม้ แล้วพิศวงงงงวยไปกับความสลับซับซ้อนของต้นไม้นี้ อุทยานประกอบด้วยต้นมะม่วงหิมพานต์ปีรังจีเพียงต้นเดียวกับต้นมะม่วงหิมพานต์ปกติอีกต้นหนึ่งเป็นเพื่อน
ขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์สูง 6 เมตร เพื่อมองดูต้นไม้จากข้างบน เก็บผลมะม่วงหิมพานต์ที่มีวิตะมินซีสูง โดยต้นไม้ของอุทยานผลิตมะม่วงหิมพานต์ได้ 80,000 ผลต่อปี
ฟังเรื่องราวที่มีเสน่ห์เบื้องหลังต้นไม้ต้นมหึมานี้ กล่าวกันว่าชาวประมงที่ชื่อลูอิซ อินาซิยู ดีโอลิเวย์ราเป็นผู้ปลูกต้นไม้นี้ใน ค.ศ. 1888 ซึ่งถึงแก่กรรมใต้ต้นไม้นี้เมื่ออายุได้ 93 ปี
จ่ายค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเพื่อเข้าไปในอุทยานมะม่วงหิมพานต์ และใช้บริการนำเที่ยวในภาษาอังกฤษ ซื้อของฝากของขวัญเกี่ยวกับต้นไม้นี้ได้จากแผงค้าด้านนอกอุทยาน
ต้นมะม่วงหิมพานต์ปีรังจีอยู่ข้างหาดปีรังจีโดนอร์ชีในชุมชนปาร์นามิริม จากนาตาล เดินทางลงใต้มาประมาณ 40 นาทีทางรถยนต์เพื่อมาที่นี่ จุดสังเกตในบริเวณใกล้เคียงรวมถึงหาดปีรังจีโดซุลและแม่น้ำปีรังจี