องค์ประกอบภายนอกที่ผสมผสานระหว่างบาโรคและโกธิกที่โดดเด่น งานศิลปะ และจอกศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็ดึงดูดให้ใครต่อใครแวะเข้ามาเยี่ยมชมวิหารพระมารดาและนักบุญจอห์นแบปติสต์ขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้า แหล่งมรดกโลกของ UNESCO แห่งนี้ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วิหารแห่งเซดเลค และเป็นวิหารของคณะนักพรตซิสเตอร์เชียนที่เก่าแก่ที่สุดในโบฮีเมีย
วิหารแห่งนี้มีความเป็นมาย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 โดยเป็นหนึ่งในอาคารหลายหลังที่สร้างขึ้นโดยสำนักสงฆ์ของคณะนักพรตซิสเตอร์เชียนผู้มั่งมีแห่งเซดเลค อาคารหลังนี้ถูกกลุ่มฮุสไซต์ทำลายในปีค.ศ. 1421 และอยู่ในสภาพพังพินาศกระทั่งสถาปนิกนามว่า ยาน บลาเชย์ ซานตินิ-ไอเคล เข้ามาบูรณะในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 การออกแบบของซานตินิได้ผสมผสานสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของวิห ารเข้ากับองค์ประกอบแบบผสมระหว่างบาโรคและโกธิก
หลังจากสำรวจองค์ประกอบภายนอกของอาคารแล้ว ลองเดินเข้าไปด้านในวิหาร ทำความเข้าใจประวัติความเป็นมาของวิหารคร่าวๆ โดยชมภาพยนตร์ความยาว 9 นาทีในโรงภาพยนตร์ขนาดย่อม
ไปที่ท้องพระคลังซึ่งเก็บสมบัติบางชิ้นที่สำคัญที่สุดของวิหารเอาไว้ ชมจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งเซดเลคจากศตวรรษที่ 14 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในจอกศักดิ์สิทธิ์แบบโกธิกที่หลงเหลืออยู่เพียง 10 ใบในโลก จอกศักดิ์สิทธิ์ชุบเงินที่ดูหรูหราใบนี้เป็นอุปกรณ์ที่ทรงคุณค่าสำหรับประกอบพิธีกรรมซึ่งใช้รองแผ่นปังที่เสกแล้ว ซึ่งเป็นเวเฟอร์แผ่นบางที่ผู้ศรัทธาจะรับประทานในพิธีศีลมหาสนิท
ชมกฎบัตรมูลนิธิที่เก่าแก่ของโบสถ์ในรูปแบบที่เป็นฉบับจำลอง กระดาษหนังจะบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาที่นักพรตซิสเตอร์เชี ยนมาถึงเซดเลคเป็นครั้งแรก ชมแบบจำลองของภาพวาด แม่พระระทมทุกข์ ภาพวาดของจริงวาดโดยศิลปินชาวโบฮีเมียที่รู้จักกันว่าเป็น Master of theTřeboň Altarpiece เที่ยวดูตู้สารภาพบาปสไตล์บาโรกจากปีค.ศ. 1730 และภาพวาดฝีมือศิลปินในยุคบาโรกนามว่า เปเตรอ บรันเดิล ที่อยู่ในบริเวณอื่นๆ ของวิหาร
วิหารพระมารดาและนักบุญจอห์นแบปติสต์ขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าอยู่ห่างจากเมืองกุตนาฮอราในเซดเลคเป็นระยะทาง 1.6 กิโลเมตร สามารถเดินมาที่นี่ได้จากสถานีรถไฟหรือนั่งรถประจำทางจากถนนมาซารีโกวา เด็ก ผู้สูงอายุ บุคคลทุพพลภาพ และนักเรียนจะได้รับส่วนลดค่าเข้าชม คุณสามารถประหยัดเงินได้เมื่อใช้ตั๋วร่วมสำหรับเข้าการชมวิหารและศาสนสถานอื่นๆ ซึ่งรวมถึงสถานที่เก็บกระดูก ที่นี่คือโบสถ์กระดูกซึ่งของตกแต่งต่างๆ เช่น โคมระย้า ทำจากกระดูกของมนุษย์
