เดินตามป้ายไปยัง “Faiche Stiabhna” ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวไอริชเรียก St. Stephen’s Green มีความหมายว่าโอเอซิสในตัวเมือง ชมอาคารสมัยวิกตอเรีย เล่นฟุตบอล โยนจานร่อน นั่งมองผู้คนผ่านไปมา วิ่งออกกำลังกาย ให้อาหารเป็ด นอนหลับสักงีบ หรือนั่งปิกนิกที่สวนสาธารณะยอดนิยมในดับลินแห่งนี้ คุณอาจพกนิยายของนักเขียนชื่อก้องชาวไอริชเพื่อมาอ่าน ณ จุดที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักเขียนเหล่านั้น
สมัยก่อน St. Stephens’ Green เคยเป็นสนามหญ้าทั่วไปที่มีการล้อมไว้สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้นในปี 1664 จนกระทั่งสองศตวรรษต่อมา จัตุรัสขนาดใหญ่แห่งนี้จึงเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อให้ประชาชนเข้าใช้ โดยได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากเซอร์ Arthur Guinness รูปปั้นผู้ทรงอิทธิพลในวงการเบียร์นี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความเอื้อเฟื้อของชายผู้นี้ซึ่งมีตำแหน่ง Baron Ardilaun ปัจจุบันสวนขนาด 22 เอเคอร์แห่งนี้มีการจัดภูมิทัศน์เหมือนในยุควิกตอเรีย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนเมื่อปี 1904 เป็นที่มาของนิยายเรื่องดัง Ulysses ของ James Joyce Joyce ผู้มีบ้านเกิดอยู่ที่ดับลินไปมีส่วนในการทะเลาะในสวนนี้ และเขาได้รับความช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำหรับตัวละครตัวหนึ่งในเรื่อง รูปปั้นศีรษะถึงช่วงอกของนักเขียนท่านนี้วางอยู่ที่ใจกลางของสวน
ถ้าคุณต้องการมาปิกนิก แวะซื้อแซนด์วิชและของว่างที่ร้านขายอาหารซึ่งอยู่บนถนน Baggot ใกล้ๆ กัน ถ้าต้องการเดินเข้าอย่างงามสง่า ให้เดินเข้าสวนโดยลอดใต้ Fusilier’s Arch ที่มีลักษณะคล้ายโครงสร้างสมัยโรมันโบราณ แต่ที่จริงแล้วสร้างเสร็จในปี 1907 น้ำพุและศาลาที่กระท่อมคนสวนเป็นของโบราณจริง (จากทศวรรษที่ 1800) แวะที่อนุสรณ์ Great Famine ซึ่งเป็นงานประติมากรรมอันโดดเด่นที่อุทิศให้แก่ช่วงแร้นแค้นที่ชาวไอริชประสบตั้งแต่ปี 1845 ถึง 1850
ทั่วทั้งสวนมีที่นั่งใต้หลังคาหลายแห่งเพื่อปกป้องคุณจากแสงแดดและเม็ดฝนที่มีโอกาสตก ทางตะวันออกของสวนมีสนามเด็กเล่น และที่ใจกลางสวนมีสวนสำหรับคนตาบอด ซึ่งที่นั่นมีป้ายอักษรเบรลล์และต้นไม้ที่ทนทานพอให้จับได้
สวนนี้ตั้งอยู่ที่สุดถนน Grafton Street ในย่านการค้า รถโดยสารในเมืองส่วนมากให้บริการผ่านสวนนี้ หรือจะนั่งรถทัวร์แบบขึ้นลงได้ตลอดของดับลินก็ได้ สวนนี้ไม่อนุญาตให้นำแอลกอฮอล์เข้ามา และปิดในตอนกลางคืน