หอนาฬิการาชาบายเป็นเป็นหอนาฬิกาอันวิจิตรงดงามที่โดดเด่นบนขอบฟ้าของมหาวิทยาลัยมุมไบ ชื่นชมการออกแบบทางสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ฟังเสียงสั่นระฆัง จากนั้นเดินชมอาคารอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย หอนาฬิการาชาบายตั้งชื่อตามมารดาของนายหน้าค้าหุ้นผู้ทรงอิทธิพลที่ได้บริจาคเงินช่วยเหลือการก่อสร้าง สถาปนิกชาวอังกฤษผู้เป็นที่เคารพ เซอร์ จอร์จ กิลเบิร์ต สกอตต์ เป็นผู้ก่อสร้างหอนาฬิกาแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1869 ถึง 1878 นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ออกแบบวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย
หอนาฬิกาไม่เปิดให้สาธารณะชนเข้าชม นักท่องเที่ยวสามารถชมหอนาฬิกาและหาจุดถ่ายรูปที่ดีได้จากถนน กรมวีร ภาวราว ปาฏิล มารค (Karmaveer Bhaurao Patil Marg) เมื่อแหงนมองดูหอนาฬิกาที่สูง 85 เมตรแห่งนี้ จะเห็นความคล้ายคลึงกับหอนาฬิกาบิกเบน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญชื่อดังระดับโลกในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ที่กรุงลอนดอน ชื่นชมการออกแบบโดยสถาปนิกที่มีการผสมผสานสไตล์เวนิซและกอทิก หน้าต่างกระจกสี ลายขัด และยอดแหลมที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง
รอฟังเสียงลั่นระฆังที่ก้องกังวาลในบริเวณโดยรอบทุกๆ 15 นาที ในสมัยการปกครองโดยบริติชราช หอนาฬิกาจะมีการบรรเลงเพลงทั้งสิ้น 16 เพลง หนึ่งในบรรดาเพลงดังกล่าว ได้แก่ Rule Britannia และ God Save the King ซึ่งเป็นเพลงประจำชาติของอังกฤษในสมัยนั้น
อย่าลืมชมผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมอื่นๆ ในร่มไม้ต้นปาล์มของมหาวิทยาลัยมุมไบ ลองมองหาห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีจุดเด่นตรงหน้าต่างกระจกสีอันงดงาม รวมถึงอาคาร Convocation Hall อันหรูหรา ชมนักศึกษาและอาจารย์เดินผ่านสนามหญ้าไปสู่ห้องบรรยายต่างๆ
หอนาฬิการาชาบายสามารถเดินทางถึงได้จากสถานีปลายทางฉัตรปติศิวาชี (Chhatrapati Shivaji Terminus) และประตู เกตเวย์ ออฟ อินเดีย ได้ด้วยการเดินเท้า 25 นาที หากคุณไม่ต้องการเดิน ก็สามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยใช้บริการรถยนต์สามล้อและแท็กซี่ราคาไม่แพง ด้านตรงข้ามของหอนาฬิกา คือ โอวัล เมดาน ซึ่งเป็นสวนสันทนาการขนาดใหญ่ที่คุณสามารถชมการแข่งขันคริกเก็ตได้ นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้ยังมีศาลสูงแห่งบอมเบย์ ที่ซึ่งคุณสามารถเดินชมห้องพิจารณาคดีมากมาย โดยจะเห็นเจ้าหน้าที่ศาลเดินขวักไขว่ตามอาคารต่างๆ และชมการพิจารณาคดีแบบสด