เดินทางไปที่ Paso Robles เพื่อชมโรงบ่มไวน์ที่มีรางวัลการันตี ทัศนียภาพสวยงาม น้ำพุร้อน และสถานที่น่าสนใจทางวัฒนธรรม เมืองนี้อยู่ตอนกลางของแคลิฟอร์เนีย ถัดจากเทือกเขาริมชายฝั่งและแวดล้อมไปด้วยไร่องุ่น
ที่นี่เริ่มผลิตไวน์เป็นครั้งแรกในปี 1797 โดยชาวสเปนที่ชนะสงครามและมิชชันนารีฟรานซิสกัน การผลิตไวน์จำนวนมากเพื่อการค้าเริ่มขึ้นอีกประมาณ 100 ปีต่อมา
ภูมิภาคผลิตไวน์ของ Paso Robles ประกอบด้วยโรงบ่มไวน์ประมาณ 200 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่บนเนินเขารอบๆ ทางหลวง Highway 81 ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันเพื่อทัวร์พื้นที่ผลิตไวน์ทางตะวันออกและอีกวันทางตะวันตก โรงบ่มไวน์บางแห่งมีกิจกรรมสำหรับครอบครัวด้วย ทัวร์โหนสลิงที่ Ancient Peaks Winery ตามด้วยทัวร์ถ้ำใต้ดินที่ Eberle Winery
นอกจากไวน์แล้ว Paso Robles ยังมีประสบการณ์หลากหลายให้คุณได้สัมผัส เช่น ว่ายน้ำ ล่องเรือ เล่นสกีน้ำ และเล่นเวกบอร์ดที่ทะเลสาบ Nacimiento ปั่นจักรยานภูเขาไปตามเส้นทางรอบทะเลสาบ Antonio และชมหงส์ ห่าน และนกน้ำชนิดอื่นๆ ที่Atascadero Lake Park
สำรวจภูมิภาคนี้ด้วยการเดินไปตามเส้นทางที่ยาวหลายร้อยกิโลเมตร ตัวเมืองเองก็มีเส้นทางมากมายเช่นกัน รวมถึง Turtle Creek Loop ลาดยางที่ยาว 1.5 กิโลเมตร และเส้นทางสั้นๆ ที่วนรอบป่าสงวนเชอร์วูด ผ่อนคลายหลังจากผจญภัยมาทั้งวันที่สปา นักท่องเที่ยวมาที่ Paso Robles เพื่อสัมผัสน้ำพุร้อนธรรมชาติเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว
ขณะอยู่ที่นี่ อย่าลืมไปชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในตัวเมืองด้วย เดินเล่นใน Downtown City Park ซึ่งเป็นจัตุรัสงดงามที่มีศาลาพักผ่อน โต๊ะปิกนิก และพื้นที่ปิ้งย่างบาร์บีคิว ในฤดูร้อนที่นี่จะมีฟรีคอนเสิร์ตตอนเย็นวันศุกร์ เลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดในร้านบูติกและงานศิลป์สุดวิจิตรที่ Heritage Gallery West ปล่อยให้เด็กๆ ได้สนุกสนานกับนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟที่พิพิธภัณฑ์เด็ก Paso Robles ปิดท้ายวันที่ร้านอาหารซึ่งมองเห็น Downtown City Park
ภูมิภาคนี้อยู่ตรงกลางระหว่างซานฟรานซิสโกกับลอสแองเจลิส ใช้เวลาขับรถจากทั้งสองเมืองนี้ประมาณ 3 ชั่วโมง
มาที่ Paso Robles เพื่อชิมไวน์ใหม่ๆ สำรวจธรรมชาติ และพักผ่อนในวันหยุด