ออร์วีเอโคมีประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล ด้วยย่านเมืองเก่าบนภูเขา และอุโมงค์ใต้ดินอันสลับซับซ้อนดุจเขาวงกต หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงภูเขาไฟ มองเห็นทิวทัศน์ไร่องุ่นและสวนมะกอก ลองเดินตามถนนปูหินกรวดแคบๆ ในใจกลางเมืองสมัยยุคกลางแห่งนี้เพื่อสัมผัสกลิ่นอายประวัติศาสตร์อันรุ่มรวย
เดินทางมาที่สถานีรถไฟออร์วีเอโต จากนั้นขึ้น กระเช้าไฟฟ้าออร์วีเอโตเปิดในหน้าต่างใหม่ ขึ้นสู่ย่านเมืองเก่าผ่านชนบทท่ามกลางขุนเขาที่มีป่าไม้เขียวขจี รถไฟไต่ระดับนี้มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1888 และถือเส้นทางขนส่งที่งดงามดุจภาพวาด
ชื้อบัตร Carta Unica Orvieto เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ในเมืองเก่า ไฮไลท์สำคัญคือ ดูโอโม ดี ออร์วีเอโตเปิดในหน้าต่างใหม่ (Duomo di Orvieto) ส่วนหน้าของอาคารอันหรูหราประดับด้วยภาพปูนเปียก ภาพนูน และกระเบื้องโมเสก เดินเข้าสู่โบสถ์ซันบรีซีโอ (San Brizio Chapel) เพื่อชมภาพปูนเปียก Giudizio Universale สมัยศตวรรษที่ 15 อันน่าทึ่งที่กินพื้นที่ทั้งผนัง
นอกจากนี้ หอคอยโมโรเปิดในหน้าต่างใหม่ (Moro Tower) ก็เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางจัตุรัสและโบสถ์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่างๆ เดินขึ้นสู่ยอดหอคอยเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองและชนบทโดยรอบ ชมนาฬิกาจักรกล และฟังเสียงระฆังอันก้องกังวาลจากพื้นที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของออร์วีเอโตแห่งนี้
บนยอดผาด้านปลายสุดทางทิศตะวันออกของเมืองปราการ คือ บ่อน้ำนักบุญแพทริคเปิดในหน้าต่างใหม่ สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 7 ทรงว่าจ้างให้ก่อสร้างบ่อน้ำแห่งนี้ ในระหว่างที่ทรงลี้ภัยอยู่ในออร์วีเอโตหลังจากการปล้นสะดมกรุงโรมในปี 1527 เดินลงสู่บ่อน้ำได้ทางบันไดเวียนทั้งสองแห่งของบ่อน้ำ
ออร์วีเอโตตั้งอยู่ในจังหวัดแตร์นีทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นอุมเบรีย โดยมีอากาศร้อนที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายนจะมีอากาศชื้นที่สุด เมืองแห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศอิตาลี ระหว่าง ฟลอเรนซ์เปิดในหน้าต่างใหม่ และ โรมเปิดในหน้าต่างใหม่ ขึ้นเครื่องบินมาลงที่สนามบินเปรูจา ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนแห่งนี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 80 กิโลเมตร
ออร์วีเอโตมีย่านเมืองเก่าอันงดงามที่ตั้งอยู่เหนือแนวขุนเขาของแคว้นอุมเบรีย ซึ่งเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหลของสถานที่แห่งนี้