ป้อมนาหรครห์เป็นสิ่งก่อสร้างอีกแห่งหนึ่งในบรรดาวัดและพระราชวังที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเขาอาราวัลลี ป้อมแห่งนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ในเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิตของราชวงศ์ราชสถานในสมัยโบราณเท่านั้น แต่ยังให้ภาพทิวทัศน์อันมหัศจรรย์ของบรรดาอาคารหินสีชมพูแห่งเมืองชัยปุระ สำรวจห้องหับต่างๆ ของสมาชิกราชวงศ์ในตอนบ่าย ตกเย็นจึงออกมาชื่นชมทิวทัศน์อันน่าประทับใจยามอาทิตย์อัสดงเหนือเมืองด้านล่าง
ป้อมปราการแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1734 ตั้งชื่อตามองค์ชายนาฮาร์ สิงห์ ตำนานเล่าว่าการก่อสร้างป้อมปราการได้รบกวนสุสานขององค์ชาย จนวิญญาณของพระองค์เริ่มก่อความวุ่นวาย กระทั่งองค์กษัตริย์ทรงตกลงพระทัยที่จะตั้งชื่อป้อมตามพระนามขององค์ชาย วิญญาณขององค์ชายจึงหยุดรบกวนการก่อสร้าง
ใช้เวลาสักครู่หนึ่งลองสำรวจพระราชวังภายในป้อมซึ่งเป็นที่ประทับของมหาราชาราม สิงห์ และพระชายาทั้งเก้าองค์ พระชายาทั้งเก้าล้วนมีห้องประทับสองชั้นเป็นของตนเอง สังเกตดูลวดลายดอกไม้แสนประณีตบนประตูและหน้าต่าง ลวดลายประดับที่ดูหรูหราเหล่านี้เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าห้องต่างๆ ของพระราชวังน่าจะมีลักษณะอย่างไรในสมัยที่พระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์จริงๆ
มองหาปืนใหญ่ที่เรียงกันอยู่รอบกำแพง เป็นเครื่องย้ำเตือนนักท่องเที่ยวว่าแต่เดิมป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันดินแดนจากข้าศึก อยู่ที่นี่จนตะวันตกดินเพื่อรอชมทิวทัศน์ เมืองชัยปุระเหมาะแก่การถ่ายภาพมากที่สุดเมื่ออยู่ใต้แสงที่กำลังจะดับลงของอาทิตย์อัสดง ยามที่แสงบริเวณเส้นขอบฟ้าเริ่มส่องประกายระยิบระยับ นำกล้องส่องทางไกลมาด้วยเพื่อใช้ดูอาคารอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองชัยปุระได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ป้อมนาหรครห์ตั้งอยู่บนสันเขาสูง ทางตอนเหนือของเมืองชัยปุระ ถ้าต้องการไปเยี่ยมชม จ้างรถยนต์และคนขับให้พาคุณไปถึงยอด เส้นทางตรงที่สุดแต่เดินทางค่อนข้างลำบากก็คือ ใช้เวลา 20 - 30 นาทีเดินทางไปตามทางขึ้นเขาลาดชัน และทางเดินคดเคี้ยวจากถนนป้อมนาหรครห์ มีค่าเข้าชม และมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับกล้องถ่ายภาพนิ่งและกล้องวิดีโอที่จะนำไปใช้ในสถานที่