คัลคารา หมู่บ้านที่สวยงามประดุจภาพวาด ตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางจุดแวะพักอันน่าอัศจรรย์บริเวณริมขอบแกรนด์ฮาร์เบอร์ที่ใหญ่โตมโหฬาร เพลิดเพลินกับท้องถนนปูด้วยหินสุดคลาสสิก โบสถ์ทรงโดมขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับทะเลเสียจนเกลียวคลื่นแทบจะมาสัมผัสธรณีประตูในช่วงน้ำขึ้น
หน้าผาหินปูนของคัลคาราทำให้ดูยิ่งใหญ่ตระการตา คนกลุ่มแรกที่มาขึ้นบกที่มอลตา อาจเลือกคัลคาราเพื่อมาขึ้นฝั่งและอยู่อาศัย เนื่องจากการก่อตัวของหน้าผาธรรมชาติของที่นี่ เป็นกำบังลมและพายุจากทะเลเมดิเตอเรเนียนที่กระหน่ำรุนแรงเป็นบางครั้ง ชื่อของเมืองนี้มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่าหินปูน เนื่องจากแร่ธาตุธรรมชาติที่สะสมที่นี่ เดินไปตามแนวชายฝั่งกับทางเดินเลียบชายฝั่งที่สวยงาม เรือและโบสถ์ขนาดใหญ่อันมีเสน่ห์ที่น่ารักที่สุดในอ่าวจอดเรือ โบสถ์ประจำเขตแพริชที่มียอดโดมเป็นประกายแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างน่ารัก หลังจากที่ถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทาวน์เฮาส์ของคัลคารา ซึ่งมีด้านหน้าที่โดดเด่นด้วยรายละเอียดที่ประณีตที่แกะสลักจากหิน ทำหน้าทื่เป็นฉากหลังที่น่าสนใจสำหรับทัวร์เดินเท้าเข้าไปชมทั่วทั้งเมืองของคุณ ป้อมปราการของคัลคารามีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้อมริเนลลา เศษหลงเหลือที่ยอดเยี่ยมจากสมัยอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งมีปืนที่ใหญ่ที่สุดกระบอกหนึ่งเท่าที่เคยสร้างมา ป้อมอื่นๆ ของเมือง ได้แก่ ป้อมริกาโซลีและป้อมอาวร์เซเวียร์ เดินไปตามสถานที่พัฒนาเมืองที่ทันสมัยใน SmartCity ซึ่งมีร้านอาหาร เส้นทางเดิน ลากูน และน้ำพุประกอบจังหวะเพลง
เยี่ยมชมที่อยู่อาศัยแบบพื้นเมืองของชาวมอลตาที่วิลล่าบิกีและวิลล่าปอร์เตลลี ซึ่งมองเห็นมหาสมุทรอันตระการตา อ่าวสองอ่าวภายในอาณาเขตของคัลคารา ซึ่งได้แก่ ริเนลลาเบย์และคัลคาราครีก นำไปสู่แกรนด์ฮาร์เบอร์ พื้นที่นี้ยังครอบคลุมถึงแหลมบิกีและแหลมริกาโซลีอีกด้วย
ชาวเมืองคัลคารา ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความเชี่ยวชาญในการสร้างเรือ สร้างเรือของตัวเองเพื่อเข้าร่วมในการแข่งเรือ ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำของเมืองนี้ จากคัลคารา ขึ้นเรือข้ามผืนน้ำไปยังเมืองหลวงวัลเลตตา หรือสำรวจสถานที่สวยงามอื่นๆ ที่ล้อมรอบแกรนด์ฮาร์เบอร์