เหิงชุนเป็นเมืองชานเมือง ตั้งอยู่ที่สุดปลายทิศใต้ของเกาะไต้หวัน นั่งรถผ่านเขตเกษตรกรรมทางตอนใต้ของนครผิงตงเพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติเขิ่นติง คุณจะได้พบกับชายหาดแสนสวยและป่าเขตร้อน ชมกำแพงเมืองเพื่อตระหนักถึงความยิ่งใหญ่และขนบธรรมเนียมอันเก่าแก่ยาวนานของประเทศที่เปี่ยมมนต์ขลังแห่งนี้
ชื่อของที่นี่แปลความหมายตรงตัวได้ว่า “เมืองฤดูใบไม้ผลิตลอดกาล” บริเวณนี้มีอุณหภูมิอบอุ่นน่าสบายตลอดปี และมีฤดูฝนอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม
เริ่มต้นจากประตูเมืองโบราณเหิงชุนเพื่อดื่มด่ำในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค กำแพงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีนี้ทอดตัวยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตรในเขตเมือง เดินเลียบตามความยาวของกำแพงไปจนพบกับประตูอันยิ่งใหญ่และวัดเจ้าแม่สวรรค์ มองหาเปลวเพลิงไม่มีวันดับที่สะพานชูหั่ว อันเกิดจากการเผาไหม้ของก๊าซธรรมชาติที่พลุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน
หลังจากศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นแล้ว คุณอาจเลยไปสัมผัสชายหาด เข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขิ่นติงและไปเดินย่ำผืนทรายที่หาดหนานวาน ซึ่งมีร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำและสปีดโบ๊ทคอยบริการ พักเติมพลังที่ร้านอาหารเลียบหาดพลางชมวิวทะเลกว้างไกลและผาเขียวขจี
สำรวจภายในเมืองเขิ่นติงที่ไม่กว้างใหญ่นัก แวะร้านอาหารและตลาดสดก่อนออกเดินทางไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชีววิทยาทางทะเลและสัตว์น้ำ ที่นี่ประกอบด้วยนิทรรศการมากมาย จัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์น่าทึ่งนานาชนิดจากทั่วโลก เดินลอดผ่านอุโมงค์ใต้น้ำและชมการแสดงวาฬ
เมืองแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี 1873 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ชิง ก่อนจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ญี่ปุ่น และกลับมาเป็นของจีนอีกครั้งในท้ายที่สุด
ศูนย์รวมการเดินทางขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดคือท่าอากาศยานนานาชาติเกาสง ห่างออกมาทางเหนือ 100 กิโลเมตรจากเหิงชุน รถบัสนำส่งจากสนามบินดังกล่าวใช้เวลา 7 ชั่วโมง เมื่อมาถึงแล้ว คุณอาจเช่าสกูตเตอร์หรือรถยนต์ หรือโดยสารแท็กซี่เพื่อสัญจรรอบเมือง
เที่ยวเมืองเหิงชุนเพื่อสำรวจรอยอารยธรรมราชวงศ์ชิงและจักรวรรดิญี่ปุ่นเลียบแนวกำแพงอนุรักษ์ ประภาคารติดอาวุธ และอุทยานชมทิวทัศน์งดงาม