ประภาคารยูโรปา พอยท์ตั้งตระหง่านอย่างภาคภูมิที่ส่วนปลายสุดของยิบรอลตาร์ ลำแสงใหญ่ของประภาคารช่วยส่องทางให้แก่นักเดินเรือที่ล่องเรือตัดผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์ที่ปั่นป่วนอยู่บ่อยครั้ง ณ ตำแหน่งที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกัน ยืนอยู่บนส่วนปลายสุดของแหลมยูโรปา แล้วชื่นชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งและประภาคารแถบสีแดงขาวอันโดดเด่น
นักเดินเรือต่างเกรงกลัวต่อน่านน้ำที่ทอดยาวนี้มาเป็นเวลานาน ก่อนจะมีการสร้างประภาคาร พวกเขาพึ่งพาเปลวไฟที่วูบไหวอยู่ในโบสถ์ที่อยู่ใกล้เคียงอย่าง Our Lady of Europa ประภาคารสร้างขึ้นในปี 1838 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อประภาคารทรินิตี ณ แหลมยูโรปา ออกเดินทางไปสู่ส่วนปลายสุดของยิบรอลตาร์เพื่อชมประภาคารความสูง 20 เมตร ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 50 เมตร ลำแสงของประภาคารสามารถมองเห็นเปล่งประกายได้จากระยะห่างออกไปมากกว่า 32 กิโลเมตร
ระบบอัตโนมัติของประภาคารยูโรปา พอยท์ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 1994 แต่เป็นเรื่องน่าแปลกที่ยังคงมีผู้ดูแลประภาคารอยู่ในปัจจุบัน นี่คือประภาคารเพียงหนึ่งเดียวภายนอกสหราชอาณาจักรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Trinity House เก็บภาพโดยมีประภาคารที่โดดเด่นนี้เป็นพื้นหลังและจับภาพวิวสวยงามที่อยู่ไกลออกไป มีพื้นที่เปิดโล่งที่กว้างขวางและสวยงามอยู่ที่นี่สำหรับให้ได้ชมวิวและเย็นใจไปกับไอศกรีมสักถ้วย หรือจะเลือกจิบกาแฟในร้านอาหารก็ยังได้
ในระยะใกล้ๆ กับประภาคารเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถาน Sikorski Memorial อนุสรณ์สถานแห่งนี้อุทิศให้แด่ Wladyslaw Eugeniusz Sikorski นายกรัฐมนตรีชาวโปแลนด์ ซึ่งตัวเขารวมทั้งผู้อื่นอีก 15 ราย เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกในยิบรอลตาร์เมื่อปี 1943 ไปเยือนอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึง Sikorski และคนอื่นๆ ซึ่งมีชื่อจารึกอยู่บนแผ่นจารึก
นั่งรถโดยสารจาก Market Place ในย่านใจกลางเมืองเพื่อเดินทางมายังประภาคาร ซื้อตั๋วรถโดยสารแบบทั้งวันและสนุกกับการแวะไปโน่นมานี่ได้ตามสบาย ฉากพระอาทิตย์ลับฟ้าไปจากยูโรปา พอยท์เป็นภาพที่น่าทึ่ง และในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะสามารถมองเห็นชายฝั่งตอนเหนือของแอฟริกาที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 26 กิโลเมตรอีกด้วย