Dome of Light เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะจากบานกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบโดยศิลปินชาวอิตาลี Narcissus Quagliata จุดสนใจแห่งนี้ประกอบขึ้นมาจากบานกระจกสีหลายต่อหลายชิ้นวางเรียงต่อกันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของมนุษย์ แหงนหน้าขึ้นชมผลงานเอกชิ้นนี้เพื่อสังเกตดูรูปทรงที่น่าสนใจต่างๆ และทำความเข้าใจแนวคิดของชิ้นงาน
เก็บภาพผลงานศิลปะอันโดดเด่นชิ้นนี้ภายในสถานีรถไฟ พิเคราะห์แก่นสารของงานที่แสดงถึงช่วงต่างๆ ของชีวิต อันได้แก่ “น้ำ: อุทรแห่งชีวิต” “ดิน: ความเจริญและเติบโต” “แสง: จิตวิญญาณสร้างสรรค์” และ “ไฟ: การทำลายและเกิดใหม่” อภิเชษฐ์ความหมายในแง่กว้างอันสื่อถึงความรักและความอดทน
เสาใหญ่สองต้นสีแดงกับสีน้ำเงินตั้งค้ำจุนผลงานศิลปะจากพื้นสถานี ชมศิลปะกระจกระหว่างเสาสองต้นที่จุดกึ่งกลางของชิ้นงานขนาดใหญ่ บานกระจกสีน้ำเงิน เขียว และแดง ส่วนใหญ่แสดงถึงสัตว์และสิ่งมีชีวิตในตำนาน
ดูโดมขนาดยักษ์ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร จึงดูโดดเด่นในฐานะที่เป็นองค์ประกอบขนาดใหญ่ของสถานีรถไฟ ด้วยความสวยงามสะกดสายตา บางครั้งจึงมีคู่รักเลือกที่จะมาถ่ายภาพแต่งงานถัดจากชิ้นงานกระจกในสถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้ มีการกล่าวว่าที่นี่เป็นผลงานศิลปะกระจกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และอยู่ภายในสถานีทรงกลมขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย กลุ่มสถาปนิกชาวญี่ปุ่นออกแบบทางเข้าออกรูปทรงเปลือกหอยดูน่าสนใจ
Quagliata ควบคุมงานก่อสร้างโดมด้วยตนเอง โดยใช้เวลาถึง 4 ปีจึงแล้วเสร็จในประเทศเยอรมนีก่อนจะนำส่งมายังไต้หวัน สถานีนี้เป็นเครื่องรำลึกถึงเหตุการณ์ฟอร์โมซา ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ช่วยโน้มนำให้เกิดประชาธิปไตยขึ้นในประเทศบนเกาะนี้
คุณสามารถเข้าชมโดมกระจกได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สถานีเปิดทำการตลอดทั้งวัน
Dome of Light อยู่ในสถานี Formosa Boulevard ที่ใจกลางนครเกาสง ขึ้นรถไฟสายสีส้มหรือสีแดงเพื่อมาที่สถานี และมองหาชิ้นงานกระจกนี้ได้ ณ บริเวณที่เครือข่ายสองสายบรรจบกัน หลังจากเยี่ยมชมสถานีแล้ว คุณอาจออกไปใช้เวลาต่ออีกสักครู่เพื่อเดินสำรวจตลาดใกล้ๆ