แม้จะมีประวัติยาวนานย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 18 แต่โบสถ์ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองแห่งนี้ได้ถูกทิ้งไว้ในสภาพซากปรักหักพังเป็นเวลานานกว่าห้าสิบปีหลังการทิ้งระเบิดเมืองเดรสเดินในปี 1945 หลังเสร็จสิ้นการบูรณะฟื้นฟูอันยาวนาน ทุกวันนี้โบสถ์ Church of Our Lady ได้ถูกนำกลับคืนสู่สภาพดั้งเดิม และได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญที่สุดของสถาปัตยกรรมศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกายโปรเตสแตนท์ในภูมิภาคนี้ ปีนขึ้นเหนือยอดโดมของอาคาร หรือร่วมฟังการร้องเพลงประสานเสียงกลางโถงที่โอ่อ่าของตัวอาคาร
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่บริเวณจตุรัสนอยมาร์ก จึงทำให้โบสถ์ Church of Our Lady นี้ตั้งอยู่ ณ ใจกลางเมืองเดรสเดินพอดี คุณสามารถเดินมาที่โบสถ์เพื่อชมภาพของตัวอาคารตั้งตระหง่านเหนือโครงสร้างอื่นๆ โดยรอบ บันทึกภาพสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกของตัวอาคารด้านนอก ก่อนเข้าไปยังด้านในเพื่อชื่นชมกับผลงานการตกแต่งที่งดงาม
หรือเลือกลงทะเบียนร่วมบริการนำเที่ยว เพื่อรับฟังประวัติศาสตร์ต่างๆ ของโบสถ์ รวมถึงความเป็นมาเกี่ยวกับต้นกำเนิดในยุคศตวรรษที่ 18 และสภาพของโบสถ์ที่ถูกทำลายจนหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เที่ยวชมบริเวณชั้นใต้ดินเพื่อฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพของโบสถ์ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายยุคศตวรรษที่ 20 ชมภาพถ่าย แผนโครงสร้าง และวัตถุทางโบราณคดีที่ขุดพบจากในพื้นที่ ขณะคุณเยี่ยมชมส่วนต่างๆ ของการจัดแสดง
ปีนไปตามขั้นบันไดที่ลาดชัน เพื่อไปยังส่วนบนสุดของยอดโดม ที่ความสูง 67 เมตร จุดชมวิวนี้มอบมุมมองที่งดงามตระการตาของใจกลางตัวเมืองเดรสเดินที่อยู่โดยรอบ โปรดทราบว่าการปีนขึ้นไปด้านบนนั้นต้องอาศัยพละกำลังมากและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มั่นใจในความแข็งแรงของสภาพร่างกายเท่านั้น
ร่วมฟังดนตรีในกิจกรรมคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นโดยโบสถ์เป็นประจำ โบสถ์ Church of Our Lady เป็นบ้านเกิดของวงร้องเพลงประสานเสียงสองวง นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงร้องเพลงประสานเสียงเป็นพิเศษในทุกวันอาทิตย์ คุณสามารถดูข้อมูลกิจกรรมการจัดแสดงดนตรี รวมถึงกิจกรรมดนตรีที่มีการใช้ออร์แกนขนาดยักษ์ภายในโบสถ์ได้จากปฏิทินกิจกรรมในเว็บไซต์หลักของทางโบสถ์
โบสถ์ Church of Our Lady เปิดให้เข้าชมทุกวัน ผู้เข้าชมต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหากต้องการปีนขึ้นไปบนยอดโดม คุณสามารถเดินทางมายังโบสถ์ได้โดยใช้รถรางหรือรถโดยสาร หรือหากขับรถไปก็สามารถนำรถไปจอดบริเวณพื้นที่รอบจตุรัสนอยมาร์ก