Chapel of the Holy Cross เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุดในเซโดนา โบสถ์สไตล์โรมันคาทอลิกแห่งนี้สร้างขึ้นบนทิวเขาหินที่ยื่นออกมา สูงจากพื้นประมาณ 60 เมตร มีไม้กางเขนขนาด 27 เมตรวางตัดบริเวณศูนย์กลางของโบสถ์ ดูคล้ายลิ่มแทงเข้าไปในเนื้อหิน คุณจะได้ชื่นชมความงดงามของสถานที่นี้ ซึ่งมีส่วนที่เพิ่มเข้ามาโดยธรรมชาติ มีเนินเขาสีแดงอยู่ล้อมรอบ
Marguerite Brunswing Staude ซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ในท้องถิ่นและยังเป็นศิลปินด้วยนั้น เป็นผู้รับมอบหมายให้สร้างโบสถ์นี้ขึ้นมาในปี 1932 Staude ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตึกเอ็มไพร์สเตทที่เพิ่งสร้างใหม่ในขณะนั้น เขาจึงอยากจะสร้างโบสถ์ขึ้นมาในสไตล์นั้นบ้าง โบสถ์นี้สร้างแล้วเสร็จในปี 1956 ใช้เวลาก่อสร้างเพียงแค่ 18 เดือนเท่านั้น
ในปี 1957 สถาบัน American Institute of Architect ได้มอบรางวัลแห่งเกียรติยศ Award of Honor ให้โบสถ์แห่งนี้ โดยโบสถ์นี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนต่างชื่นชมมาจวบจนปัจจุบัน ลองเดินชมความงามของโบสถ์โดยรอบ รวมถึงการตกแต่งภายนอกซึ่งขยายมาจากผนังของหินสีแดง
และเมื่อเดินเข้ามาในโบสถ์ ลองสังเกตการตกแต่งภายในที่ดูเรียบง่ายแต่มีความละเอียดมาก ส่วนผนังที่เป็นมุมและแสงจากธรรมชาติที่เล็ดลอดเข้ามานั้นยิ่งทำให้ที่นี่ดูคล้ายว่าเป็นสวรรค์บนโลกมนุษย์เลยทีเดียว ไม้กางเขนที่อยู่กลางห้องนั้นให้ความรู้สึกประทับใจและเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่งดงาม ไม่ว่าจะมองจะข้างนอกหรือข้างใน หน้าต่างที่สูงจากพื้นถึงที่ขนาบข้างอยู่จะให้คุณเห็นทัศนียภาพของหินแดงในเซโดนา
Chapel of the Holy Cross อยู่ห่างจากศูนย์กลางของเซโดนาไปทางใต้ประมาณ 10 นาทีโดยการขับรถ มีที่จอดรถให้บริการและทางเดินที่นำทางจากที่จอดรถมายังประตูทางเข้าโบสถ์ แต่ทางเดินนั้นค่อนข้างชันสักหน่อย ร้านขายของที่ระลึกข้างล่างนั้นมีของให้เลือกซื้อหลากประเภท เช่น สายลูกประคำและไม้กางเขนที่ทำจากหินที่เก็บในบริเวณนั้น ไม่ต้องเสียค่าเข้าโบสถ์ และโบสถ์เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันกู้ดฟรายเดย์ วันอีสเตอร์ วันขอบคุณพระเจ้าและวันคริสต์มาส มีกิจกรรมสวดมนต์อย่างย่อทุกๆ วันจันทร์ตอนค่ำและเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้