เสาหินทรายที่สูง 50 เมตรนี้โผล่ขึ้นมาจากที่ราบทะเลทรายที่ปกคลุมด้วยต้นซอลท์บุชของเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แชมเบอร์สพิลลาร์ แชมเบอร์สพิลลาร์สวยที่สุดในเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ซึ่งจะเรื่อเรืองไปด้วยแสงแดงจากสีของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า อย่าลืมนำกล้องไปด้วย
แชมเบอร์สพิลลาร์เคยเป็นจุดกำหนดทิศทางสำหรับผู้บุกเบิกที่เดินทางไปอลิซสปริงส์จากเซาท์ออสเตรเลีย เนื่องจากมีความชัดเจนมากเมื่อตัดกับที่ราบของทะเลทรายซิมป์สัน นักเดินทางบางคนเหล่านี้สลักชื่อตัวเองลงในหินทรายที่ย้อนกลับไปได้ถึง ค.ศ. 1870 และกราฟฟิตี้ประวัติศาสตร์นี้ก็ได้เหลือรอดให้ผู้มาเยือนในอนาคตได้อ่าน มีเส้นทางเดินที่ตัดผ่านเขตอนุรักษ์ไปยังเสาหินและแท่นชมวิวที่ฐานเสาหิน
ชาวอาร์รันเทอพื้นเมืองมีเรื่องราวต้นกำเนิดของแชมเบอร์สพิลลาร์และคาสเซิลร็อค ซึ่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เล่ากันว่าเสาทั้งสองเป็นคู่รักสองคนที่ละเมิดต่อกฎอันซับซ้อนที่ใช้กำกับการแต่งงานระหว่างกลุ่มผิว ก็เลยถูกขับออกจากชุมชน คู่รักได้กลายเป็นหินในขณะที่พักในทะเลทราย กล่าวกันว่าฝ่ายหญิงที่ได้กลายเป็นคาสเซิลร็อคหันหลังกลับด้วยความอับอายต่อรูปลักษณ์ของแชมเบอร์สพิลลาร์ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสลักสำคัญของเสาหินระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายน บริการนำเที่ยวเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แชมเบอร์สพิลลาร์จัดขึ้นโดยผู้ดูแลอุทยานนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีในช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด
ออกไปตั้งแคมป์ในพื้นที่ระหว่างแชมเบอร์สพิลลาร์กับคาสเซิลร็อค แล้วตื่นขึ้นมาพบกับแสงอาทิตย์ที่ส่องบนเสาหิน นำรองเท้าที่สวมสบายและน้ำมาเยอะๆ และใช้เส้นทางเดินสั้นๆ รอบคาสเซิลร็อค
เขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แชมเบอร์สพิลลาร์อยู่ทางใต้ของอลิซสปริงส์ราว 160 กม. ถนนสายนี้เข้าถึงได้ด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น