ประภาคารแหลมเอ็กมอนต์ระบุตำแหน่งสุดเขตตะวันตกของแนวชายฝั่งทารานากิ โดยตั้งทะมึนอยู่ที่นี่มาเกือบ 150 ปีแล้ว ขับรถไปทางใต้จากนิวพลีมัธเลียบชายฝั่งไปราวๆ 40 นาที เพื่อพบกับสิ่งปลูกสร้างประวัติศาสตร์นี้ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของทะเลแทสมันและแนวชายฝั่งตะปุ่มตะป่ำของเกาะเหนือของนิวซีแลนด์
เดินไปรอบๆ ประภาคารและชื่นชมประวัติอันยาวนานของที่นี่ ส่วนที่เป็นเหล็กหล่อของประภาคารสร้างขึ้นในลอนดอน เมื่อกลางศตวรรษที่ 19 โดยขนส่งมายังนิวซีแลนด์ใน ค.ศ. 1865 ตัวประภาคารถูกประกอบบนเกาะมานาทางเหนือของเวลลิงตัน ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขนส่งหลายครั้ง เนื่องจากสับสนกับประภาคารอีกแห่งที่เวลลิงตันเฮดส์ ซึ่งในที่สุดก็ถูกรื้อลงและย้ายมายังตำแหน่งปัจจุบันบนหัวแหลมของแหลมเอ็กมอนต์โดยเรือเฟอร์รี และเปิดใช้งานภายใน ค.ศ. 1881 ประภาคารทำงานโดยอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1986 และจนถึงปัจจุบัน วาบไฟขาวทุกๆ แปดวินาทีในตอนกลางคืน เรือที่อยู่ห่างถึง 22 ไมล์ทะเลสามารถมองเห็นแสงไฟได้
คว้าโอกาสในการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีอยู่แทบจะทุกๆ มุมบนทำเลชายฝั่งที่มีความเป็นส่วนตัวแห่งนี้ ถ่ายภาพที่หันเข้าหาฝั่งโดยมี เขาทารานากิที่ใหญ่โตเป็นพื้นหลัง หรือหันออกไปทางมหาสมุทร เพื่อถ่ายภาพประภาคารที่หันข้างให้กับชนบทอันเขียวขจีและชายหาดในบริเวณใกล้เคียง
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ขับรถ 10 นาทีขึ้นเหนือจากจุดเดิมและพบกับคู่แฝด ค.ศ. 2005 ซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคารและพิพิธภัณฑ์ของแหลมประวัติศาสตร์ ชั้นล่าง ซึ่งเปิดในวันเสาร์ถึงวันจันทร์ มีของที่ระลึกเก่าแก่และการจัดแสดงที่มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติประภาคารแหลมเอ็กมอนต์และอดีตการเดินเรือของทารานากิ งานชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์แสดงอยู่ที่ชั้นบน ได้แก่ ดวงไฟ Fresnil Prismatic Light จากทศวรรษ 1850 ที่ได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นดวงไฟที่ให้แสงสว่างแก่ประภาคารหลังเดิมมาจนถึง ค.ศ. 1999 โทรติดต่อ เพื่อนัดเข้าชมดวงไฟนี้
ออกจากทางหลวงใกล้ๆ เมืองพังกาเรฮู เพื่อไปที่ประภาคารแหลมเอ็กมอนต์ ซึ่งอยู่ราวๆ 50 กม. ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของนิวพลีมัธ จอดรถฟรีในที่จอดรถบนถนนในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งประภาคารอยู่ห่างจากถนนในระยะเดินเพียงสั้นๆ
