เมืองในรัฐอะแลสกาแห่งนี้มีจุดชมแสงเหนือหลายแห่ง อีกทั้งยังมีกีฬาเอ็กซ์ตรีมสำหรับคนรักการผจญภัย ทิวทัศน์ที่งดงาม และโอกาสในการสัมผัสสัตว์ป่าท้องถิ่น เช่น หมี กวางมูส และหมาป่า
ค่ำคืนดาวระยิบระยับของ Anchorage เป็นพื้นหลังชั้นยอดสำหรับการชมแสงเหนือเต้นระบำ ถ้าคุณจะมาชมแสงเหนือ ขอแนะนำให้วางแผนพักที่นี่สัก 2-3 วัน เพราะแสงนี้คาดการณ์ได้ยากพอๆ กับอากาศของที่นี่ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่น่าจะเห็นแสงเหนือได้มากที่สุด
อุณหภูมิของที่นี่แทบจะไม่เคยเกิน 19 องศาเซลเซียสแม้แต่ในฤดูร้อน และมีหิมะตกเกือบตลอดทั้งปี ถ้าการใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณ นี่เป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้เห็นสัตว์ป่า เช่น หมี กวางมูส หมาป่า และตัวบีเวอร์ ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่ธรรมดาของ Anchorage ทำให้ที่นี่เหมาะจะเป็นที่อยู่ของสัตว์เหล่านี้
ถ้าการส่องสัตว์มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ไปที่ฟยอร์ดหรือธารน้ำแข็ง เช่น Prince William Sound ที่คุณอาจได้เห็นวาฬ นกนางนวลคิตติเวก นาก นกพัฟฟิน และสิงโตทะเล นั่งเรือออกไปที่หน้าธารน้ำแข็ง Portage Glacier ซึ่งอยู่ใน Chugach National Forest ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของภูเขา Chugach ด้วย นักเดินทางแบกเป้และนักปีนเขาพากันมาที่นี่ในฤดูร้อน ในขณะที่นักสกีและนักเดินหิมะจะมาในฤดูหนาว
อีกวิธีดีๆ ในการสำรวจพื้นที่นี้คือการนั่งเลื่อนสุนัข ที่นี่มีทัวร์และเลื่อนหลากหลายรูปแบบที่เดินทางทั่วเขตชนบท ในฤดูร้อนที่ไม่มีหิมะ เลื่อนจะมาพร้อมล้อแทนการใช้สุนัข
ภูมิอากาศเย็นจัดของ Anchorage ทำให้ที่นี่มีน้ำแข็งและหิมะมาก คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจึงถือโอกาสเล่นกีฬาหน้าหนาวหลายอย่าง เช่น สกี สโนว์โมบิล และเลื่อนสุนัข การผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมตอนกลางวันนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เบียร์ท้องถิ่นเป็นของขึ้นชื่อ ลองชิมเบียร์ Polar Pale Ale หรือ Sockeye Red IPA อาหารทะเลของ Anchorage ก็ได้ชื่อว่าดีที่สุดติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ลองจิบเบียร์แกล้มปูอะแลสกาหรือปลาตาเดียวที่เพิ่งจับสดๆ ก็ได้