โรเวเรโตเป็นเมืองอันงดงามในหุบเขาวัลลาการีนาอันเขียวชอุ่มของแม่น้ำอาดีเก เมืองแห่งนี้มีปราสาทอันยิ่งใหญ่ตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งเป็นปราการที่คุ้มกันเมืองที่ในอดีตเคยเป็นชายแดนกั้นระหว่างสาธารณรัฐเวนิส และเขตมุขนายกแห่งเตรนโต เตร็ดเตร่ตามตรอกคับแคบ แล้วเยี่ยมชมโบสถ์และพระราชวังสมัยยุคกลางซึ่งทำให้เมืองแห่งนี้น่าหลงใหล
รำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามที่ระฆัง Bell of the Fallen อันน่าทึ่ง ระฆังขนาดใหญ่บนภูเขามีราวัลเลแห่งนี้จะดัง 100 ครั้งทุกเย็น เพื่อรำลึกถึงเหยื่อภัยสงครามจากทุกชาติ ระฆังแห่งนี้ก่อสร้างในปี 1924 โดยใช้ทองสัมฤทธิ์จากปืนใหญ่ของทุกประเทศที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1
ส่วนจัดแสดงขนาดเล็กนี้มีการจัดแสดงภาพถ่ายและวิดีโอเกี่ยวกับประวัติของระฆังนี้ จากนั้นเดินผ่านป่าเพื่อไปยังอนุสรณ์ปราสาทดันเต ซึ่งเป็นที่เก็บศพของทหาร 20,000 นาย
เยี่ยมชมศูนย์กลางเมือง และแวะดื่มกาแฟในร้านกาแฟสักแห่ง ชมสิ่งล้ำค่าทางสถาปัตยกรรมสมัยยุคกลาง เช่น วังเปรโตรีโอ วังปาลัซโซ เดลลันโนนา และบ้านเกิดของรอสมีนี เป็นต้น เพื่อซึมซับบรรยากาศของความรุ่งโรจน์ของเมืองแห่งนี้ในอดีต หนึ่งในบรรดาสถานที่สำคัญ คือ โบสถ์แห่งซันมาร์โกสมัยศตวรรษที่ 15 ที่มีออร์แกนที่โมซาร์ทเคยใช้เล่นคอนเสิร์ตครั้งแรกๆ ของเขา
ทางส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย (Mart) ชมหลังคาโดมกระจกและสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ชมงานศิลปะสมัยใหม่ของอิตาลีมากมายภายในพิพิธภัณฑ์
เมืองแห่งนี้มักมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นและเปียกชื้น โดยเดือนมกราคมเป็นเดือนที่แห้งที่สุด และเดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด การปั่นจักรยานและกีฬาฤดูหนาวเป็นกิจกรรมยามว่างยอดนิยมท่ามกลางภูเขาและหุบเขาอันงดงามของแนวเทือกเขาโดโลไมต์
เมืองแห่งนี้อยู่ห่าง 27 กิโลเมตรจากทางทิศใต้ของเตรนโต ซึ่งอยู่ทางเหนือของอิตาลีในบริเวณเทือกเขาแอลป์ในอิตาลี ขึ้นรถไฟที่ผ่านเมืองต่างๆ เป็นประจำ หรือขึ้นเครื่องบินมาลงที่สนามบินเวโรนา วิลลาฟรันกา ซึ่งอยู่ห่างจากทางใต้ของเมือง 80 กิโลเมตร
ชื่นชมบรรยากาศอันแสนสงบและทิวทัศน์อันงดงามของแนวภูเขาน้อยใหญ่ของภูเขาเตรนตีโน ขณะเยี่ยมชมปราสาทและพิพิธภัณฑ์ในโรเวเรโต