พักการท่องเที่ยวในเมืองที่วุ่นวายและมาผ่อนคลายในสวนพฤกษศาสตร์โจฮันเนสเบิร์กที่งดงาม พื้นที่ขนาด 505 ไร่แห่งนี้ห้อมล้อมไปด้วยสวนหลากสไตล์ พร้อมเส้นทางวิ่งออกกำลัง และเขื่อนเก็บน้ำ ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้รักธรรมชาติ ผู้ที่ชอบออกกำลัง และผู้ที่ชอบกิจกรรมทางน้ำ
ทัวร์ชมสวนหลากหลายรูปแบบเพื่อดูการผสมผสานกันอย่างลงตัวของพืชท้องถิ่นและพืชต่างประเทศ ค้นหาคอลเล็กชันสมุนไพรที่ได้รับการกล่าวถึงในการแสดงของ The Bard ขณะไปชมสวนเชกสเปียร์ ชมต้นเรดวูดแคลิฟอร์เนียและต้นโอ๊กอังกฤษในสวนรุกขชาติ และสูดกลิ่นหอมของพืชสมุนไพรแอฟริกาในสวนสมุนไพร เดินผ่านสวนกุหลาบซึ่งมีดอกกุหลาบสีสันสดใสนับพันและดอกซากุระ ที่สวนพุ่มไม้ก็จะมีต้นไม้ทรงพุ่มกว่า 50 สายพันธุ์ให้ได้ชม
เมื่อมาชมที่สวนพืชอวบน้ำ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับต้นไม้อย่างกระบองเพชรและว่าน ว่าสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทะเลทรายได้อย่างไร พืชเหล่านี้อยู่ในเรือนกระจก 6 แห่ง สามารถชมได้ตามการนัดหมายเท่านั้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของสวนพฤกษศาสตร์โจฮันเนสเบิร์ก
เดินหรือวิ่งเหยาะๆ ไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามสนามหญ้าและผ่านป่าไม้ มองหานกท้องถิ่นอย่างนกช้อนหอยและนกจาบ หรือเพลิดเพลินกับการให้อาหารเป็ดและห่านที่เกาะนก เมื่อเริ่มหิวก็แวะเข้าไปที่ร้านอาหารหรือสนุกสนานกับการปิกนิกก็ได้
ร่วมเล่นกีฬาทางน้ำที่เขื่อนเอ็มมาเรนเทีย ซึ่งตั้งอยู่มุมฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสวน พายเรือคายักหรือล่องเรือใบเที่ยวชมผืนน้ำขนาด 47 ไร่ เหวี่ยงเบ็ดตกปลาเพื่อได้ปลาคาร์พและปลาแบส บรรยากาศที่งดงามริมเขื่อนเหมาะสำหรับงานคอนเสิร์ตและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ หนึ่งในกิจกรรมที่ผู้คนรอคอยมากที่สุดของที่นี่คือ เทศกาล Holi One Color ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองการอยู่ร่วมกันที่มีทั้งดนตรีและศิลปะการแสดง
สวนพฤกษศาสตร์ตั้งอยู่เขตชานเมืองของกรีนไซด์ ใช้เวลาขับรถ 15 นาทีจากใจกลางเมืองโจฮันเนสเบิร์ก และมีที่จอดรถให้บริการฟรี ถ้ามาโดยรถสาธารณะ ก็มีป้ายจอดรถอยู่ใกล้ทางเข้า
สวนพฤกษศาสตร์โจฮันเนสเบิร์กเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก และไม่มีค่าเข้าชม สามารถเที่ยวได้ตลอดปี แต่ช่วงที่สวยที่สุดคือเดือนกันยายน-เดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้บานเต็มที่
