ทรายสีทองของแคร์โลแซนด์โบลว์ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 150,000 ตารางเมตร มาเยือนเนินทรายสวยงามที่มีลมสะบัดไหวนี้เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเมืองทินแคนเบย์และมหาสมุทรแปซิฟิก หรือชมการเปลี่ยนสีของทรายและท้องฟ้าเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ชื่อแซนด์โบลว์มีที่มาจากนักสำรวจชื่อดัง กัปตันเจมส์ คุก ที่ตั้งชื่อตามชื่อลูกเรือคนหนึ่งของเขา หากต้องเห็นในสิ่งที่เขาได้ค้นพบ ให้ลองไปตามเส้นทางเดินธรรมชาติที่สะดวกไปสู่ชายฝั่ง เส้นทางผ่านหมู่ไม้ความยาวไม่ถึง 600 เมตร ทอดขึ้นสู่บันไดที่บริเวณด้านหลังของเนินทรายและนำไปสํ่จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเป็นเนินทรายยักษ์ในรูปทรงเหมือนถ้วย ผู้มาเยือนสามารถอ่านป้ายให้ข้อมูลที่อธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้และชมผู้เล่นพาราไกลดิ้งที่เคลื่อนตัวผ่านไปให้เห็น
มองออกไปยังเนินทรายหลากสีที่สูงชันที่ทอดตัวไปตามแนวของเรนโบว์บีช คุณสามารถชมวิวของแหลมเกาะดับเบิ้ลได้ นอกจากนี้ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ยังสามารถมองเห็นส่วนปลายด้านใต้ของเกาะเฟรเซอร์ เกาะทรายที่ใหญ่ที่สุดของโลก อีกด้วย ดูท้องน้ำเพื่อมองหาวาฬและโลมา ซึ่งบ่อยครั้ง มักจะพบเห็นเริงร่าอยู่นอกชายฝั่งในช่องแคบเกรทแซนดี้
ถอดรองเท้าออก แล้วเดินลงไปที่บริเวณส่วนสัน เท้าของคุณจะจมลึกลงไปในผืนทรายอุ่นๆ หากต้องการความตื่นเต้น เตรียมกระดานโต้คลื่นของคุณมาด้วยสำหรับแล่นลงไปจากเนินทราย
แคร์โลแซนด์โบลว์อยู่ในตำแหน่งเริ่มต้นสำหรับ Cooloola Great Walk เส้นทางเดินป่าริมชายฝั่งขนาดความยาว 102 กิโลเมตร ที่ตัดผ่านอุทยานแห่งชาติเกรตแซนดี้ไปยังนูซา นอร์ท ชอร์ โดยการเดินจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน หรืออาจเลือกขับรถขึ้นเหนือไปยังแหลม Inskip เพื่อตั้งแคมป์ภายใต้แสงดาวสักคืน หรือไปพักในเมืองเล็กๆ อย่างเรนโบว์บีช ที่พรั่งพร้อมด้วยที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้า และปั๊มน้ำมัน
หากต้องการชมภาพประทับใจ กลับมาเยือนแคร์โลแซนด์โบลว์ในเวลาอาทิตย์อัสดงเพื่อชมเนินทรายเปลี่ยนสีในขณะที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนลับขอบฟ้า
แคร์โลแซนด์โบลว์เป็นส่วนหนึ่งของชายหาดสาธารณะ ดังนั้น จึงสามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ที่จอดรถที่สุดถนน Cooloola Drive เปิดให้บริการฟรี หากคุณคิดจะมาตั้งแคมป์ ควรเตรียมเสบียงและน้ำดื่มมาด้วย และอย่าลืมบัตรอนุญาตสำหรับการตั้งแคมป์ในป่าพื้นฐาน