โบสถ์เซนต์ปอลและถ้ำเซนต์ปอลประกอบร่วมกันกลายเป็นสิ่งก่อสร้างทางศ่าสนาแห่งศตวรรษที่ 17 ที่น่าประทับใจและจารึกไว้ด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล ณ ตำแหน่งที่ตั้งของถ้ำ เป็นที่ซึ่ง เล่ากันว่า ปอลในขณะที่ยังไม่ได้เป็นนักบุญ เคยใช้เป็นที่พักพิงหลังจากเรืออับปาง เดินชมโบสถ์ขนาดใหญ่เพื่อสัมผัสถึงเรื่องราวอดีตอันน่าทึ่งของกรุงราบัต
ถ่ายภาพส่วนด้านหน้าอันวิจิตรของสิ่งก่อสร้างที่มีทางเข้าสามทางอันโดดเด่น เข้าไปภายในโบสถ์และชมบรรยากาศอันกวางขวางและสงบของทางเดินกลาง ใช้เครื่องบรรยายนำเที่ยวเพื่อให้ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโบสถ์และประวัติของโบสถ์
พิจารณาถึงตำนานและเรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิลที่่โอบล้อมโบสถ์แห่งนี้ หนังสือ Acts of the Apostles ระบุว่า ปอลและคณะสอนศาสนาของเขาติดเกาะที่มอลตาเป็นเวลา 3 เดือน ในค.ศ. 60 เมื่อปอลโดนงูกัดและปรากฏว่าเขาไม่เป็นอะไร ผู้คนในท้องถิ่นจึงยกย่องบูชาเขาเป็นเทพเจ้า ปอลได้ให้การรักษาคนป่วยและเขาเลือกที่จะยังคงอยู่ในถ้ำที่ตั้งอยู่ใต้โบสถ์ที่เห็นในปัจจุบัน
ทึ่งไปกับวัตถุทางศาสนาที่ตกแต่งโบสถ์ St. Publius ไปที่ถ้ำเซนต์ปอล ที่ซึ่งพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 เคยมาสวดมนต์ในระหว่างการมาเยือนในปี 1990 และพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ก็เช่นเดียวในระหว่างการมาเยือนในปี 2010 ถ้ำนี้แบ่งออกเป็นห้องหลายห้องที่อยู่ใต้ดิน สำรวจดูรูปปั้นของเซนต์ปอลที่สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งได้รับบริจาคมาจาก Manuel Pinto de Fonseca ผู้เป็นแกรนด์มาสเตอร์แห่งมอลตาในศตวรรษที่ 18 แหงนเงยหน้าเพื่อชมเรือเงินจำลองที่แขวนลงมาจากเพดาน
มีการคิดค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าชมโบสถ์โดยมีส่วนลดให้สำหรับเด็กๆ ตั๋วเข้าชมยังครอบคลุมการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Wignacourt ด้วย โบสถ์เปิดตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายจัดในช่วงระหว่างวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ควรมาเยือนในตอนเช้าตรู่หรือบ่ายจัดเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนจำนวนมากซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เมื่อมีรถทัวร์นำเที่ยวมาลง
พบกับโบสถ์เซนต์ปอลและถ้ำเซนต์ปอลได้ในย่านศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของกรุงราบัตในมอลตา คุณสามารถใช้บริการรถโดยสารและเดินอีกประมาณ 5 นาที ก็จะถึง พบกับไฮไลต์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เช่น คฤหาสน์ Casa Bernard, สถานประวัติศาสต์และสุสานใต้ดินเซนต์อากาธา และ Ta’ Giezu โบสถ์อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง