ณ ยอดเนินเขาอันเขียวชอุ่มที่มีชนบทของเมืองทิปเพรารีรายล้อมอยู่ เป็นที่ตั้งของกลุ่มสิ่งก่อสร้างจากยุคกลางที่เรียกกันว่า Rock of Cashel ส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น ได้แก่ หอคอยแห่งศตวรรษที่ 12, วิหารแบบโกธิกแห่งศตวรรษที่ 13 และปราสาทแห่งศตวรรษที่ 15 สำรวจสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สวยงามและชมสิ่งของจัดแสดงที่เป็นโบราณวัตถุทางศาสนา
Rock of Cashel เคยเป็นที่ตั้งของ High Kings of Munster มาเป็นเวลาหลายปีมา มันสเตอร์เป็นจังหวัดหนึ่งในไอร์แลนด์ตอนใต้ แต่ในปี 1101 กษัตริย์ผู้ปกครองได้มอบสถานที่นี้ให้แก่โบสถ์ ไม่นานหลังจากนั้น จึงมีการสร้างหอคอยทรงกลมซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของสถานที่นี้
เข้าไปชมบริเวณภายในผ่านทาง Hall of the Vicars Choral ที่มาจากศตวรรษที่ 15 เข้าสู่ภายในห้องเก็บศพที่อยู่ด้านล่างของห้องโถงนั้นเพื่อชมพิพิธภัณฑ์ที่อัดแน่นไปด้วยโบราณวัตถุ รวมทั้งถ้วยดื่มเหล้าองุ่นจากศตวรรษที่ 16, กางเขนนักบุญแพททริคแห่งศตวรรษที่ 12 และแบบจำลองของทรัพย์สมบัติที่เป็นวัตถุทางศาสนาซึ่งมีการค้นพบ ณ สถานที่แห่งนี้
เหยียบย่างเข้าสู่วิหารแห่งศตวรรษที่ 13 ซึ่งปราศจากทางเดินและไม่มีหลังคา ชมสุสานแห่งยุคกลาง ป้ายหลุมศพ และสุสานบนกำแพงของอาร์บิชอปแห่งศตวรรษที่ 16 เข้าไปชมภายในสุสานของวิหาร ซึ่งมีกางเขนยืนอยู่มากมาย ถัดไปจากวิหารมีหอคอยทรงกลมจากศตวรรษที่ 12 ที่มีความสูง 27.5 เมตร ส่วนพื้นที่ภายในมีลักษณะกลวง
ภายใน Chapel of King Cormac คุณสามารถชมภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบโรมาเนสก์จากช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 12 ซึ่งนับว่าเก่าแก่มากที่สุด ชมภาพการประสูติของพระเยซูจากศตวรรษที่ 12 เดินต่อไปอีกไม่ไกลไปยังส่วนปลายสุดด้านตะวันตกของโบสถ์น้อยเพื่อไปพบกับโลงหินแกะสลัก เชื่อว่าครั้งหนึ่งโลงหินนี้เคยใช้บรรจุพระศพของกษัตริย์คอร์แมคและน้องชายของพระองค์
Rock of Cashel เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นช่วงเวลาสองสามวันใกล้ๆ กับเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ดี เวลาเปิดทำการมีความหลากหลายไปตามฤดูกาล มีการคิดค่าเข้าชมโดยมีส่วนลดให้สำหรับพลเมืองสูงอายุ เด็ก และนักศึกษา มีการจัดบริการนำเที่ยวทุกๆ ชั่วโมง โดยใช้เวลารอบละครึ่งชั่วโมง พบกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้ในระยะการเดินสั้นๆ จากบริเวณศูนย์กลางเมืองคาเชล มีที่จอดรถแบบคิดค่าบริการอยู่บริเวณเชิงเนินเขา คุณจึงสามารถฝากรถของคุณเอาไว้ได้