ผู้คนมักเรียกที่นี่ว่า “เซนต์โทรเปซแห่งอเมริกาใต้” ปุนตาเดลเอสเตโด่งดังในเรื่องชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ท่าจอดเรือที่ส่องแสงประกายวิบวับ และแสงสีกลางคืนที่ไม่หลับใหล ก่อนหน้านี้ ที่นี่เคยเป็นท่าเรือประมง ปัจจุบันเมืองนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวอาร์เจนติน่าและบราซิล
ปุนตาเดลเอสเตตั้งอยู่บนคาบสมุทรซึ่งเป็นเขตกั้นระหว่าง Rio de la Plata (แม่น้ำเพลต) และมหาสมุทรแปซิฟิก เดินชมตลาดหัตถกรรมที่ Avenida Gorlero หรือช้อปปิ้งของแบรนด์เนมในเอาท์เล็ตที่อยู่ใน Calle 20 ปีนขึ้นไปบนประภาคารเพื่อดูทิวทัศน์ของคาบสมุทรและชายฝั่งที่ยาวสุดลูกหูลูกตา
ชายหาดที่งดงามทอดยาวหลายกิโลเมตรทางทิศตะวันออกและตะวันตกของคาบสมุทร ขนาบด้วยชายหาด Playa Brava ที่ขนานไปกับชายฝั่งแปซิฟิกและเป็นจุดโต้คลื่นที่ดีแห่งหนึ่ง ที่ชายหาดนี้มีประติมากรรม La Mano ซึ่งเป็นมือของยักษ์ที่โผล่ขึ้นบนชายหาด
ไปต่อที่ Playa Mansa เพื่อเพลิดเพลินกับน้ำที่สงบนิ่งของ Rio de la Plata ลองเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น วินด์เซิร์ฟและสกีน้ำ หรือทานอาหารที่คลับบนชายหาด เด็กๆ จะสนุกกับสไลเดอร์น้ำที่ Splash Aqua Park
เดินไปตามทางเดินริมน้ำเพื่อไปที่ท่าเรือ ดูเรือยอชต์ที่หรูหราลอยอยู่ในท่าจอดเรือ และดูชาวประมงขายสิ่งที่จับมาได้ จากท่าเรือ คุณสามารถล่องเรือเพื่อไปยัง Isla Gorriti เพื่อพักผ่อนบนชายหาดที่ไม่มีผู้คนหนาแน่น หรือล่องเรือชม Isla de Lobos ซึ่งเป็นบ้านของเหล่าสิงโตทะเล
กลับมาที่ท่าเรือเพื่อชมพระอาทิตย์ตกจากระเบียงด้านนอก จากนั้นไปสนุกกับเหล่านักปาร์ตี้ในบาร์ซึ่งให้บริการจนเกือบสว่าง และหากต้องการสำรวจพื้นที่นอกตัวเมืองก็มีรถเช่าพร้อมให้บริการ เยี่ยมชม Casapueblo ซึ่งเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ออกแบบโดยศิลปินชาวอุรุกวัย Carlos Paez Vilaro สัมผัสกับธรรมชาติที่ Arboretum Lussich ขับรถไปทางตะวันออกเพื่อสัมผัสกับชายหาดและไนท์คลับทันสมัยที่ La Barra จากนั้นมากระทบไหล่คนดังที่ Jose Ignacio
ฤดูท่องเที่ยวในปุนตาเดลเอสเตจะเริ่มตั้งแต่วันคริสต์มาสถึงเดือนมกราคม ซึ่งค่าที่พักจะสูงขึ้นเป็นอย่างมากและต้องสำรองที่พักล่วงหน้าหลายเดือน ลองพิจารณาไปเที่ยวช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่วาฬเซ้าเทิร์นไรท์อพยพและว่ายเข้าใกล้ชายฝั่ง