วิหารทองคำตั้งอยู่ในย่านท่องเที่ยวที่สำคัญใน Bylakuppe ศูนย์ผู้อพยพชาวทิเบตที่มีพื้นที่ครอบคลุมวัด โบสถ์ และแคมป์หลายแห่ง บรรยากาศที่เงียบสงบแผ่ซ่านอยู่ทั่วสถานที่ ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากวัดอินเดียที่คึกคัก ร่วมทำกิจกรรมกับพระทิเบตผู้สวมใส่จีวรภายในอาคาร และสัมผัสกับบรรยากาศอันสุขสงบในระหว่างชื่นชมการตกแต่งอันวิจิตรที่มีสีสันสดใส
Bylakuppe เป็นหนึ่งในที่พำนักของผู้อพยพที่อยู่ในอินเดียใต้ มีขึ้นเพื่อรองรับชาวทิเบตที่หนีมาจากดินแดนบ้านเกิดในช่วงระหว่างการบุกรุกของคนจีนในปี 1959 ในปัจจุบัน มีชาวทิเบตมาอยู่อาศัยมากกว่า 10,000 คน รวมทั้งพระและชีอีกมากมาย เข้าไปเยือนภายในวิหารเพื่อไปสมทบกับพระและฟังเสียงสวดมนต์
ด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังและงานแกะสลักอันประณีต ทางเข้าวัดแห่งนี้บ่งบอกเป็นนัยๆ ถึงการตกแต่งประดับประดาบริเวณภายในอย่างอลังการ เมื่อเข้ามาด้านใน ควรมองหาเบาะสีน้ำเงินสำหรับให้ผู้มาเยือนใช้รองคุกเข่าขณะชมภาพจิตรกรรมฝาผนังและการตกแต่งอันวิจิตรประณีต หนึ่งในบรรดาจุดสนใจที่สะดุดตามากที่สุดของวิหารทองคำคือ พระพุทธรูปชุบทองคำขนาดมหึมาสามองค์ที่ประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์เหนือแท่นบูชา พระพุทธรูปองค์กลางมีความสูง 18 เมตร ในขณะพระพุทธรูปที่เปล่งประกายขนาบข้าง ได้แก่ พระโพธิสัตว์ปัทมสัมภวะและพระอมิตาภพุทธะ ทั้งสองพระองค์ต่างก็มีความสำคัญในตำนานพุทธศาสนาของทิเบต
ที่บริเวณด้านล่างของพระพุทธรูปเป็นแท่นบูชา ซึ่งปกติแล้วจะตกแต่งด้วยดอกไม้ เทียน และเครื่องหอม ในขณะที่บริเวณฝาผนังได้รับการตกแต่งด้วยลวดลายหลากสีสัน คุณสามารถนั่งชมได้ตามสบายสักครู่หนึ่งเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สุขสงบและปลอบประโลม ภายในวิหารยังอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ด้วย แต่จะต้องระมัดระวังไม่สร้างความรบกวนแก่ผู้ที่มาสวดมนต์หรือทำสมาธิ
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถมาเยือนได้ฟรีในระหว่างวัน แต่จำเป็นต้องมีหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่คุ้มกัน (PAP) แบบพิเศษ จึงจะสามารถพักค้างคืนได้ การอนุญาตอาจต้องใช้เวลายาวนานมากกว่า 4 เดือน ในการดำเนินการ วิหารทองคำเปิดทุกวัน แต่จะปิดระหว่างเวลา 13:00 น. - 14:00 น. ซึ่งเป็นเวลาสวดมนต์ วิหารทองคำตั้งอยู่ใน วัด Namdroling ห่างจาก Kushalnagar ประมาณ 4.5 กิโลเมตร ควรใช้บริการรถรถสามล้อหรือรถแท็กซี่ในการเดินทางมาเยือนวัด
