ด้วยอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ ชานเมืองอันร่มรื่น และย่านชนบทรอบๆ ทำให้ปีเตอร์มาริตซ์เบิร์กได้ชื่อว่าเป็น "เมืองแห่งบุปผชาติ" อาคารสมัยวิกตอเรียและเอ็ดเวิร์ดให้ภาพพจน์แห่งอดีตยุคอาณานิคมของมหานครอันทันสมัยแห่งนี้ ซึ่งหลอมรวมวัฒนธรรมซูลู อินเดีย โบเออร์ และอังกฤษเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
ซึมซับสมบัติเขียวขจีของเมืองได้ที่สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติ ควาซูลู-นาทาล เดินทอดอารมณ์ชมตัวอย่างพืชพรรณที่น่าสนใจต่างๆ อาทิ ต้นการบูร ต้นดอกทิวลิป ต้นมะเดื่อยักษ์ และต้นแมกโนเลีย เป็นต้น ชื่นชมกุหลาบ กุหลาบพันปี และเฟื่องฟ้าใน Alexandra Park ดูผีเสื้อท้องถิ่นและสายพันธุ์หายากหลายร้อยชนิดที่ศูนย์ Butterflies for Africa ภายในศูนย์มี Butterfly House ที่ให้เดินเข้าชมได้ ทั้งยังมีพื้นที่เลี้ยงลิงระบบปิดที่ดีเยี่ยมอีกด้วย
สัมผัสอดีตของปีเตอร์มาริตซ์เบิร์กไปกับทัวร์ Town Trails ซึ่งเป็นเส้นทางเดินด้วยตนเองหลายสาย ให้คุณพบกับแหล่งประวัติศาสตร์ 50 แห่งภายในเมือง ไปที่สถานีรถไฟปีเตอร์มาริตซ์เบิร์ก ซึ่งเป็นที่ที่มหาตมา คานธี บิดาแห่งอิสรภาพชาวอินเดียและผู้นำการประท้วงโดยสันติถูกจับกุมเนื่องจากเดินทางไปในตู้รถสำหรับชนผิวขาวเท่านั้น หยุดยืนข้างราวสำหรับผูกม้าด้านนอก Imperial Hotel ซึ่งเชื่อกันว่านโปเลียนเคยล่ามม้าไว้ที่นี่
ตื่นตาไปกับศาลากลางเมือง ซึ่งเป็นอาคารอิฐแดงหลังโอ่อ่าจากยุคโคโลเนียลและถือกันว่าเป็นอาคารอิฐขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ หนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่สง่างามเป็นเลิศของเมืองแห่งนี้คืออดีตอาคารศาลสูงสุด สร้างเมื่อปี 1875 ปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของแกลเลอรีศิลปะ Tatham ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะของแอฟริกาใต้ อังกฤษ และฝรั่งเศสนับย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 18
ทำความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมชาวเผ่าซูลูที่พิพิธภัณฑ์ Natal ซึ่งให้ข้อมูลประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของแคว้นควาซูลู-นาทาล หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า "ราชอาณาจักรซูลู" เหล่านักช็อปจะหลงใหลได้ปลื้มไปกับพื้นที่สำหรับคนเดินในเขตศูนย์กลางธุรกิจ หลังจากเลือกซื้อสินค้าจากร้านรวงอิสระ แกลเลอรี และร้านงานฝีมือจนหนำใจแล้ว คาเฟ่ ร้านเหล้า และร้านอาหารอีกมากมายในเมืองก็ยังรอคอยคุณอยู่อีก
ปีเตอร์มาริตซ์เบิร์กอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 80 กิโลเมตรจากเดอร์บัน และทางใต้ 490 กิโลเมตรจากโจฮันเนสเบิร์ก ที่นี่ตั้งอยู่บนทางหลวงสายหลักระหว่างสองเมืองใหญ่ดังกล่าว มีรถบัสและรถไฟให้บริการสม่ำเสมอจากทั้งสองแห่ง