เนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้หนาแน่น วัดทิเบต และวิวยอดเขาขาวของหิมาลัย ทำให้มัสโซรีเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เป็นที่สุด เมืองนี้ตั้งอยู่เชิงเขา Garhwal Himalayas สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,981 เมตร
เดินสู่ยอดเขา Lal Tibba เพื่อชมวิวไกลสุดตาของเทือกทิวหิมาลัย ด้วยความสูง 2,286 เมตร Lal Tibba เป็นจุดที่สูงที่สุดของมัสโซรี แต่ถ้าจะให้วิวตระการขึ้นไปกว่าเดิม ต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดภูเขา Gun ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของมัสโซรี
ใช้เวลาช่วงเช้าหรือบ่ายที่น้ำตก Kempty ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในย่าน ซึ่งทิ้งตัวลงจากที่สูงและแยกตัวออกเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันไป พุ่งหลาวลงสู่สระน้ำธรรมชาติที่รองรับเบื้องล่างน้ำตก แล้วขึ้นมาเติมพลังด้วยอาหารที่ปรุงใหม่ๆ จากเพิงอาหารใกล้เคียง นอกจากนี้ น้ำตกชื่อดังอื่นๆ ของมัสโซรียังมีน้ำตก Bhatta และน้ำตก Jhari Pani อีกด้วย
เดินเล่นไปตามถนน Camel's Back ซึ่งเป็นทางเดินป่ายาว 3 กิโลเมตร ชมหินประติมากรรมธรรมชาติที่แปลกตา ปั้นแต่งเป็นรูปอูฐตามชื่อถนน เมื่อกลับลงมาที่เมือง จะแวะสำรวจร้านค้าและแผงขายของเรียงรายที่ถนนการค้าสายหลัก Mall ก็เข้าที ที่นี่ พ่อค้าแม่ค้าขายของเบ็ดเตล็ดตั้งแต่ของเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึงกงล้อภาวนาของทิเบตเลยทีเดียว
เดินหรือเรียกตุ๊กตุ๊กไปหมู่บ้าน Happy Valley ย่านที่อยู่อาศัยซึ่งห่างออกไปไม่ถึง 3 กิโลเมตรจากถนน Mall เป็นหมู่บ้านที่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขององค์ดาไลลามะหลังจากที่ทรงอพยพออกจากทิเบตเมื่อ พ.ศ. 2502 ลิ้มลองอาหารแกล้มไวน์ข้าวทิเบต chhaang สักแก้วในร้านอาหาร ก่อนขึ้นสู่วัด Shedup Choephelling ที่ยอดผา ซึ่งเป็นวัดทิเบตแห่งแรกของอินเดีย
มัสโซรีอยู่ห่างราว 55 กิโลเมตรจากสนามบิน Dehradun สนามบินภายในประเทศที่เชื่อมสู่เมืองใหญ่หลายเมือง ภายในมัสโซรี คุณจะเดิน นั่งตุ๊กตุ๊ก หรือแท็กซี่ก็ได้ มัสโซรีนั้นร้อนในฤดูร้อนและหนาวในฤดูหนาว แต่เนื่องจากอยู่ที่สูง อุณหภูมิโดยทั่วไปจึงจะต่ำกว่าที่ราบเบื้องล่างอยู่พอสมควร